ผิดหวังกับนายกฯ นายอนุทิน ในการแก้ปัญหาเขมรไม่ออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน อ้างเขาคือชาวบ้านทั่วไป มีทั้งเด็กคนชราและสตรี ต้องคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและผลต่าง ๆ ที่จะตามมา

การปฏิเสธไทม์ไลน์วันที่ ๑๐ ต.ค. ของผู้ว่าฯ สระแก้ว โดยอ้างว่าเพราะนายกฯ ไม่ใช่คนพูดก็เป็นคําพูดที่ไม่ได้เกินความจริง แต่นายอนุทินเองก็ไม่ได้ให้ความมั่นใจอะไรกับประชาชนเลย ว่าจะมีเดดไลน์ในการจัดการเรื่องนี้อย่างไร การใช้คําลอย ๆ ตอบแค่ว่า “วัน เวลาที่เราเห็นว่าเหมาะสม” นั้น อะไรคือความเหมาะสม และเหมาะสมของ “เรา” นั้น “เรา” คือใคร คือนายกฯ? คือนักการเมือง? หรือนายทุนสีเทา? นายกคือผู้นำของประเทศ ต้องไม่พูดเอาดีคนเดียว แล้วตําหนิ ผู้ใต้บังคับบัญชาออกสื่อ ลักษณะนี้ทําให้ดิฉันคิดถึงสมัยที่ นายอนุทิน เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และมีข่าวติเตียน ผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่งอย่างรุนแรง ถึงขนาด จะสอบวินัย ทั้งที่ผู้ว่าฯ มิได้ทําผิด แต่นายอนุทินอาจจะไม่ได้ข้อมูลข่าวสารครบถ้วน และในที่สุด เมื่อความจริงกระจ่างต่อสังคมออนไลน์ นายอนุทินจึงได้ยุติเรื่อง การกล่าวถึงผู้ว่าสระแก้ววันนี้ ดิฉันเห็นว่าเป็นการไม่สมควร เพราะเป็นการฉีกหน้าผู้ว่าสระแก้ว ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ในพื้นที่ย่อมรู้สถานการณ์ในพท. และอารมณ์ของประชาชน ที่ถูกเขมร
รุกล้ำครอบครองยึดพื้นที่ไทยเอาไปทํามาหารับประทานมานานนับสี่สิบปีได้ดีกว่านายกฯ อนุทิน

ดิฉันในฐานะประชาชนคนธรรมดาอยากเห็นทั้งฝ่ายการเมืองและ ข้าราชการประจำสมัครสมานสามัคคีทำงานด้วยกัน อย่างราบรื่น ไม่ขัดแย้งกันเอง ซึ่งจะทําให้เกิดข้อถกเถียงและประชาชนงุนงงว่าตกลงจะเอาอย่างไรกันแน่ มีอะไรไม่เห็นด้วย คิดว่าไม่ถูกต้องก็ควรจะพูดกันเป็นการภายใน โดยเฉพาะเรื่องเดดไลน์ให้เขมรย้ายกลับ ออกไปภายในวันที่สิบนี้ก็ประกาศมาหลายวันแล้ว จนมีการตั้งป้ายใหญ่สามภาษาไทยเขมรอังกฤษ เพื่อแจ้งให้เขมรทราบ ก็ไม่เคยเห็นนายกฯ อนุทินออกมาแย้งแต่อย่างใด ประชาชนรับทราบกันทั่วประเทศและรอคอยวันที่ ๑๐ โดยเฉพาะชาวบ้านหนองจาน มันคือความหวังของชีวิตเขาที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง
นายอนุทินอ้างมนุษยธรรม ประชาชนเขมรผู้หญิงเด็กและคนชรา และต้องให้เขมรมีที่อยู่ไม่ใช่อุ้มเขาออกไปเฉยๆ ตกลงท่านเป็นนายกไทยหรือนายกเขมร ที่จะต้องไปห่วงว่าเขาย้ายกลับไปประเทศเขาแล้วเขามีที่อยู่หรือไม่ แล้วนายอนุทินคิดถึงหัวใจของคนไทยที่สูญเสียครอบครัว ทั้งหญิงเด็กและคนชรา จากเหตุการณ์ที่เขมรบึ้มเซเว่นอีเลฟเว่น โรงพยาบาลที่มีคนป่วย ตลอดจนทหารหาญที่บาดเจ็บและเสียชีวิตหรือไม่
ในยามนี้เราต้องการผู้นําประเทศที่เข้มแข็ง ถ้าผู้นําไม่เข้มแข็ง เขมรจะไม่มีวันหยุด การเลื่อนกําหนดออกไปอย่างเลื่อนลอย ไม่มีความแน่นอน ยิ่งจะทําให้เขมรได้ใจ ไม่ว่าเราจะดำเนินการทูต เชิงรุกอย่างไร ถ้าฝ่ายรัฐบาลไม่เอาจริง ปัญหาชายแดนไทยเขมรจะยืดเยื้อยาวนาน นายกอนุทินเคยคิดประเด็นนี้หรือไม่ว่าเรื่องนี้จะต้องยุติโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียต่อประชาชน คนไทยและชีวิตของทหาร นี้ยังไม่รวมถึงงบประมาณต่าง ๆ ที่จะต้องสูญเสียไปในการป้องกันประเทศ ดังนั้นเรื่องความมั่นคงของประเทศควรจะเป็นเรื่องอันดับหนึ่งของรัฐบาลในขณะนี้
การที่รัฐบาล มีโครงการต่างๆ ที่กระตุ้นเศรษฐกิจ นับเป็นเรื่องที่ดี เช่นโครงการคนละครึ่ง ซึ่งทำให้เรียกคะแนนนิยมจากประชาชนได้มากมาย แต่นั่น ก็เป็นโครงการ ที่สร้างฐานเสียงให้กับ พรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งคราวหน้า ดิฉันขอฝากไว้ว่า อย่าทำแต่โครงการ เพื่อเรียกคะแนนนิยม ในฐานะนายกรัฐมนตรี ปัญหาหลักสําคัญที่สุดตอนนี้ คือแก้ไขปัญหาความชายแดนไทยเขมรให้ยุติตามที่ทางฝ่ายทหาร ตั้งเป้าไว้ก็คือจนเขมรหมดสภาพรุกรานไทย
ดิฉัน มิได้มี ปัญหาส่วนตัวกับท่านนายกอนุทินแต่เห็นว่า พวกเราประชาชนก็จะต้องจับตามองการทำงานของท่านด้วย นักการเมืองที่ใช้นโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้เงินหลวง ซึ่งได้จากภาษีประชาชนและนำกลับคืนไปให้ประชาชนไม่ว่าวิธีใดก็ตาม ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า ผลทางอ้อมก็คือ คะแนนเสียงเลือกตั้งในคราวหน้า
สุดท้ายนี้ ดิฉันได้ยินนายกอนุทินกล่าวว่าต้องดู “ความพร้อม” ดิฉันก็อยากจะเรียนถามว่าท่านหมายถึงใครพร้อม ขณะนี้ประชาชนพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะสนับสนุนรัฐบาลให้ดําเนินการเรื่องเขมรให้เด็ดขาด ทหารพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์และกําลังพลไปถึงหัวใจที่พร้อมยอมพลีชีพเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย แล้วท่านยังจะต้องดูความพร้อมอะไรอีก ดิฉันจึงขอเรียกร้องให้ท่านนายกอนุทิน ตัดสินใจและแสดงจุดยืนที่แน่นอนชัดเจน ประชุมร่วมกันกับฝ่ายความมั่นคงและผู้ว่าราชการจังหวัดท่านจะทำอย่างไรก็จัดการโดยด่วนที่สุด คําพูดที่กํากวมเลื่อนลอยแบบนักการเมืองผลัดไปวัน ๆ ณ นาทีนี้ต้องวาง เพราะวันนี้ที่ดิฉันฟังคําให้สัมภาษณ์ท่านนายกฯ อนุทินแล้ว ดิฉันไม่ได้ยินคําตอบอะไรที่เป็นรูปธรรมเลยในการจัดการชายแดนเขมรค่ะ