ติดตามสถานการณ์ไทยกัมพูชา ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 7 มิ.ย. 2568 สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์เคลื่อนไหวหลังกองทัพไทยสั่งปิดด่าน โดย สมเด็จฯฮุนเซน ระบุว่า

“จากการที่เห็นข้อความของนักธุรกิจชาวกัมพูชา ชวนประชาชนเลิกใช้สินค้าไทย ข้าพเจ้า และ นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ก็ได้เรียกร้องให้อย่าขยายความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไปสู่ภาคส่วนอื่นๆ และนำไปสู่ความเกลียดชังทางเชื้อชาติ
แต่วันนี้กองทัพไทยได้ปิดด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปตโดยฝ่ายเดียวก่อนกำหนด ดังนั้นประเทศไทยต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่สำหรับการกระทำนี้ สำหรับพลเมืองกัมพูชา ขอให้มีความเป็นผู้ใหญ่ มีศักดิ์ศรี และอย่าได้สร้างปัญหาใด ๆ เพิ่มขึ้น
ข้าพเจ้าเพียงต้องการเตือนทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทย หากไม่มีสินค้าไทยในตลาดกัมพูชา นั่นก็ไม่ใช่เป็นเพราะกัมพูชาคว่ำบาตรสินค้าไทย แต่เป็นผลมาจากการปิดด่านชายแดน เพราะเมื่อผู้คนถูกปิดกั้น สินค้าก็จะถูกปิดกั้นไปด้วย
ตามสถิติการค้าปี ค.ศ.2024 กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มายังประเทศไทย ในขณะที่ไทยส่งออกสินค้ามายังกัมพูชามากกว่า 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่าการส่งออกของไทยเกินมูลค่าของกัมพูชามากกว่า 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้เพียงปีเดียว กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มายังประเทศไทย ขณะที่ไทยส่งสินค้ามูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มายังกัมพูชา
หากสินค้าที่นำเข้า ไม่เข้าสู่กัมพูชาอีกต่อไป คนไทยควรแก้ไขปัญหานี้โดยตรงกับรัฐบาลของตนเอง เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือคนไทยเอง
สำหรับประชาชนชาวกัมพูชา ในกรณีที่ไม่มีสินค้าของไทย โปรดอย่าตำหนิรัฐบาลกัมพูชา เพราะการขาดแคลนนี้เป็นผลโดยตรงจากการตัดสินใจของประเทศไทยในการปิดพรมแดน ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้เพื่อนชาวกัมพูชาทุกคนรักษาความสงบ ความเป็นผู้ใหญ่ ความอดทน และความสุภาพ แต่ด้วยความแน่วแน่ หลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นศักดิ์ศรีของเรา”
