Hot News

ข่าวสลด! รอง ผกก.สภ.ห้างฉัตร เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำที่เชียงใหม่ **เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568** เพจ Nonthawat Wisutthipat รายงานว่าเกิดเหตุการณ์เศร้าใจ เมื่อรองผู้กำกับการ (ป้องกันปราบปราม) สภ.ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ขับรถกระบะตราโล่ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ **รายละเอียดเหตุการณ์** เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์กู้ชีพเอราวัณว่ามีรถกระบะสายตรวจตำรวจพลิกคว่ำตกลงข้างทาง บริเวณถนนโชตนา เส้นทางจากบ้านทับเดื่อมุ่งหน้าบ้านปางกว้าง ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ประสานงานกับสถานีตำรวจภูธรแม่แตงและทีมกู้ชีพเข้าตรวจสอบ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ พบรถกระบะตราโล่พลิกคว่ำอยู่ข้างทาง และพบผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ 1 ราย ทราบชื่อคือ **พ.ต.ท.สมชาย ก้านชมพู** รองผู้กำกับการ (ป้องกันปราบปราม) สภ.ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ทีมกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากตัวรถ     **สาเหตุเบื้องต้น** คาดว่า พ.ต.ท.สมชาย ขับรถเดินทางมาทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้แวะกลับบ้านเพื่อเยี่ยมภรรยา ก่อนจะเดินทางกลับไปยังจังหวัดลำปาง แต่ระหว่างทางเกิดฝนตกหนัก … Read more

จำแทบไม่ได้ นี่หรือ…..พระเอกที่เคยดังที่สุด ล่าสุดชีวิตเป็นแบบนี้ไปแล้ว !!! VDO จำแทบไม่ได้ นี่หรือ…..พระเอกที่เคยดังที่สุด ล่าสุดชีวิตเป็นแบบนี้ไปแล้ว !!!

ร.ต.อ.สราวุธ บุญญะรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ภูกระดึง จ.เลย ได้รับแจ้งมีคนแขวนคอเสียชีวิต บริเวณสระน้ำหลังโรงเรียนบ้านห้วยคะมะ ต.ภูกระดึง อ.ภูกระดึง เมื่อรับแจ้งประสานไปยังแพทย์ รพ.ภูกระดึง กู้ภัยภูกระดึง เดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต ชื่อ นายนพฤทธิ์ ศรีตานาค อายุ 29 ปี อยู่ ต.ภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย ผู้พิการทางขาซ้าย ใช้เชือกแขวนคอกับต้นไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกู้ภัยฯ ปลดเชือกนำร่างลงมา แพทย์ตรวจร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย คาดว่า เสียชีวิตมาแล้ว 3 – 4 ชม. จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตเมื่อ 3 เดือนก่อน ทำงานที่โรงโม่หิน แห่งหนึ่งในอำเภอภูกระดึง แล้วถูกสายพานดึงขาซ้ายเข้าไปในเครื่องจนต้องตัดขาทิ้ง และมารักษาตัวที่บ้าน และบ่นให้ญาติฟังว่าต้องมาพิการเสียขาไป จนเกิดอาการเครียด จึงตัดสินใจใช้เชือกแขวนคอกับต้นไม้จนเสียชีวิต ส่วนทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต จากนั้น มอบร่างให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป ผู้สื่อข่าวจังหวัดเลย ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน VDO … Read more

ด่วน !! ดารานักมวยดัง เกิดเหตุ ขับรถกระบะ ชuสิบล้อ พร้อมเมีย !!! ซอ ลิน อู นักชกชื่อดังจากเมียนมา ที่เข้ามาชก ในศึก ONE ลุมพินี และทำฟอร์มยอดเยี่ยม ชนะ 3 ไฟต์รวด รวมทั้งสไตล์การชกดุดันถูกใจคนดู ส่งให้เขาคว้าสัญญานักกีฬา ONE เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 แม้ไฟต์ล่าสุด จะพ่ายแพ้ให้กับ นาบิล อานาน ไปอย่างขาดลอยก็ตาม แต่ด้วยสไตล์การชกที่ดุดัน ทำให้เจ้าตัวมีโปรแกรมจะขึ้นชกกับ เสกสรร อ.ขวัญเมือง ในกติกามวยไทย รุ่น 142 ปอนด์ ในศึก ONE 170 วันที่ 24 ม.ค.68 ที่จะถึงนี้ โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Soe Lin Oo – Doe Yoe Yar แจ้งข่าวร้าย … Read more

เมื่อวันที่19 พฤษภาคม 2568ที่ผ่านมา นพ.ฆนัท ครุฑกูล นายกสมาคม นายกสมาคมโภชนาการเพื่อกีฬาและสุขภาพ เปิดเผยว่า จากการศึกษาเรื่องการดื่มกาแฟล่าสุด โดยเพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร European Heart Journal เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2025 โดยสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างเวลาที่บริโภคกาแฟและอัตราการเสียชีวิตในผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน พบการดื่มกาแฟในช่วงเช้าเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงในการเสียชีวิตจากสาเหตุต่าง ๆ และโรคหัวใจ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟหรือดื่มตลอดทั้งวัน นพ.ฆนัท กล่าวว่า การศึกษายังระบุความสำคัญของเวลาในการดื่มกาแฟ การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า เวลาที่บริโภคกาแฟอาจมีผลต่อสุขภาพ การดื่มในช่วงเช้าอาจสอดคล้องกับจังหวะชีวภาพของร่างกาย ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากสาเหตุต่างๆ และโรคหัวใจ แม้ว่าผลการศึกษานี้น่าสนใจ แต่ยังคงต้องการการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อยืนยันความสัมพันธ์นี้ นพ.ฆนัท กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ไม่เคยดื่มกาแฟ การเริ่มดื่มก็ไม่จำเป็น และควรพิจารณาถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การนอนไม่หลับหรือความวิตกกังวล หากคิดจะดื่มกาแฟ โดยไม่เคยดื่มมาก่อน ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อประเมินความเหมาะสมตามสภาพสุขภาพ  เมื่อถามถึงความเหมาะสมที่แพทย์จะแนะนำให้ดื่มกาแฟกับคนทั่วไป นพ.ฆนัท กล่าวว่า การดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมนั้น มีรายงานทางการแพทย์หลายฉบับ พบการบริโภคกาแฟในปริมาณปานกลางคือ 2-4 ถ้วยต่อวัน เชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงในการเสียชีวิตจากสาเหตุต่างๆ และโรคหัวใจ การพิจารณาสุขภาพส่วนบุคคล การแนะนำให้ดื่มกาแฟควรพิจารณาสุขภาพและความต้องการของแต่ละบุคคล … Read more

“เศรษฐา ศิระฉายา” พิธีกร นักแสดง และอดีตนักร้องนำวงดิอิมพอสซิเบิ้ล “เสียชีวิต” อย่างสงบในวัย 77 ปี หลังป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4 ช่วงเช้าของวันที่ 20 ก.พ. 65 วงการบันเทิงสูญเสียบุคคลสำคัญอีกครั้ง หลังเช้าวันที่ 20 ก.พ. 65 “เศรษฐา ศิระฉายา” หรือ “อาต้อย เศรษฐา” เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 77 ปี หลังป่วยมะเร็งปอด หลังจากที่ต้องกลับเข้าไปรักษาตัวด้วยโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 เพื่อทำคีโมอีกรอบ   ขณะที่ “อี๊ฟ พุทธธิดา” ลูกสาวของอาต้อย ได้โพสต์รูปลงในอินสตาแกรมส่วนตัวเป็นรูปท้องฟ้า พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “4.42” โดยมีหลายคนมาคอมเมนต์เพื่อแสดงความอาลัยและให้กำลังใจ   สำหรับ เศรษฐา ศิระฉายา เกิดเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 มีผลงานในวงการบันเทิงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีกร งานแสดง อีกทั้งยังเป็นอดีตนักร้องนำวงดิอิมพอสซิเบิ้ล อีกหนึ่งวงสตริงคอมโบที่ประสบความสำเร็จในไทย และเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานของวงการเพลง นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2554 เศรษฐายังได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) อีกด้วย VDO

เดือดจัด! เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น จับโป๊ะ เด็กสร้างเฟซปลอม ปั่น นักร้องสาวใต้ที่ทุกคนต้องรู้จักเป็นอย่างดีสำหรับ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” โพสต์เดือดถึงมือดีที่สร้างเฟซบุ๊คปลอมมาป่วน ถึงว่า เด็กคนหนึ่งสร้างเฟซบุ๊คปลอมมาจับผิดสาวเจนนี่ แล้วแคปรูปจักกะเร้ดำ เพื่อมาคอมเมนต์ให้ทุกคนได้รู้ว่า ตัวจริงเจนนี่ไม่ได้สวยแบบที่ทุกคนคิด แม้กระทั่งแม่ของสาวเจนนี่ ก็ยังไปป่วน แม้ในวันที่แม่ของเธอเข้าโรงพยาบาล พยายามติดต่อแม่ของเจนนี่เล่าเรื่องเครียดๆให้แม่ของเธอฟัง ซ้ำยังทำให้เธอกับแฟน เนเงิน เกือบเลิกกัน เพราะเขาสร้างความเข้าใจผิด หาว่าเธอไปปันใจให้คนอื่น ครั้งนี้ที่เธอตัดสินใจออกมาโพสต์เรื่องนี้ เพราะเธออยากให้รู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันผิดมาก ในตลอดระยะเวลามาเกือบปี ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งบอกว่า เด็กคนนี้สร้างปัญหาให้วงของเธอแตก ถึงขั้นไม่คุยกันเกือบอาทิตย์ โดยสาวเจนนี่กล่าวต่ออีกว่า เด็กคนดังกล่าว พยายามมาเมนต์ทุกโพสต์ของทุกคนในวงได้หมดถ้าสดชื่น เพื่อให้ทุกคนเกิดความแตกแยก แต่ตอนนี้พี่สาวของเด็กคนดังกล่าวทักแชทสาวเจนนี่มาขอโทษ ไม่ให้เอาเรื่องน้องของเธอ ซึ่งน้องของเธอได้หายไปไม่ติดต่อมาเลย ทั้งนี้เธอได้พูดถึงเรื่องดังกล่าว ในแบบสรุปจุดจบสิ่งที่อยากให้เด็กคนดังกล่าวต้องเจอ “เจนนี่สรุปแล้วว่า เจนนี่ขอแจ้งความดีกว่าค่ะ เพราะฟังจากเสียงแล้ว น้องเค้าไม่มีการสำนึกเลย และคิดว่าเค้าอาจจะทำกันเป็นแก๊ง เพราะคนนึงพูดอย่างอีกคนพูดอย่าง คนแบบนี้น่ากลัวมาก เค้าไม่ใช่เด็กแล้ว แต่เค้าคือคนที่น่ากลัวคนนึงในสังคม ถ้าปล่อยไว้จะได้ใจ และจะกลับมาแก้แค้นเราวันไหนก็ได้ เพราะฉะนั้น เจนนี่ขอเดินหน้าแจ้งความให้ถึงที่สุด น่าจะปลอดภัยกับชีวิตมากกว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและติดตาม #จบการรายงาน”     ชมคลิป VVVVVVVVVV VVVVV VV                                      เครดิตแหล่งข้อมูล : FB: … Read more

จากกรณี สื่อต่างประเทศ ได้เผยแพร่เรื่องราวของ ประเทศจีน ชายรายหนึ่งต้องเผชิญกับฝันร้าย หลังจากเงินก้อนโตที่เขาได้รับเป็นค่าชดเชยจากการถูกรื้อถอนที่ดินมูลค่า 3.3 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทยประมาณกว่า 16.5 ล้านบาท) หายเกลี้ยงจากบัญชี ทั้งที่เพิ่งนำไปฝากไว้กับธนาคารที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในพื้นที่ได้ยังไม่ทันข้ามวัน เรื่องราวเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2565 นายหลิวได้รับเงินชดเชยค่ารื้อถอนจำนวนมหาศาล ด้วยความกังวลว่าการเก็บเงินสดจำนวนมากไว้กับตัวจะไม่ปลอดภัย เขาจึงตัดสินใจนำเงินทั้งหมดไปฝากไว้กับธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านนั้น โดยหวังว่าจะปลอดภัยและยังได้รับดอกเบี้ยอีกด้วย เช้าวันต่อมา นายหลิว จึงได้นำเงินจำนวน 16.5 ล้านบาท ไปดำเนินการฝากเข้าบัญชีธนาคาร โดยมีพนักงานชื่อ “หลี่” เป็นผู้ให้การต้อนรับและดำเนินการทำธุรกรรมให้ตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้น เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต   หลังจากนั้น 1 ปี นายหลิว กลับไปที่ธนาคารแห่งเดิมอีกครั้ง เพื่อขอถอนเงิน แต่กลับได้รับข่าวช็อกเมื่อพนักงานธนาคารแจ้งว่า “บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของเขาไม่เหลือเงินอยู่เลยแม้แต่บาทเดียว” และเมื่อลองตรวจสอบข้อมูลการถอนเงินย้อนหลังปรากฎว่า “เงินทั้งหมดถูกถอนออกไปภายในเย็นวันเดียวกันกับที่นายหลิวนำเงินมาฝาก” นายหลิวได้เรียกร้องให้ธนาคารชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนของสาเหตุที่เงินจำนวนมหาศาลหายไปในพริบตา ทั้งที่ฝากยังไม่ทันข้ามวัน เมื่อผลสอบสวนภายในของธนาคารดังกล่าวออก จึงพบว่า พนักงานที่ชื่อ “หลี่” ได้แอบ ปลอมลายมือชื่อของนายหลิว และทำการโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีส่วนตัว ก่อนจะแจ้งลาออกในทันที ส่วนทางธนาคารกลับพยายาม ปัดความรับผิดชอบ โดยอ้างว่า พนักงานคนนั้นไม่ได้ทำงานที่นี่แล้ว และความผิดก็ไม่ใช่ของธนาคาร เราได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง … Read more

เกิดเหตุการณ์สุดระทึก เมื่อสาวเจ้าของรถเก๋งรายหนึ่งบังเอิญเจอรถของตัวเองขับผ่านหน้าระหว่างนั่งวินมอเตอร์ไซค์ จึงตัดสินใจกระโดดลงจากวินแล้ววิ่งไล่ตามเพื่อเปิดประตูรถและแย่งกุญแจคืน เหตุการณ์นี้กลายเป็นไวรัลบนโซเชียล หลังผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Nam Nxam” โพสต์คลิปวิดีโอที่เกิดขึ้นบริเวณผ่านห้วยขวาง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือจำนวนมาก ล่าสุด วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 น.ส.น้ำฝน อายุ 30 ปี เจ้าของรถ เปิดใจกับ “ข่าวสดออนไลน์” ว่า เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ขณะที่ตนเพิ่งย้ายจากต่างจังหวัดเข้ามากรุงเทพฯ โดยมีรถเก๋งหนึ่งคัน แต่ไม่สามารถจอดที่พักของตัวเองได้ เพื่อนสนิทที่มีแฟนเป็นชาวจีนจึงเสนอให้นำรถไปจอดที่คอนโดของแฟน เพราะอยู่ใกล้และสะดวกต่อการใช้งาน ตนจึงฝากกุญแจและรถไว้โดยถ่ายรูปเป็นหลักฐาน แต่หลังจากนั้นทุกครั้งที่ต้องการใช้รถ เพื่อนก็มักอ้างว่าแฟนเอาไปขับบ้าง หรือไปต่างจังหวัดบ้าง ทำให้ตนเริ่มสงสัยในพฤติกรรม จึงขู่จะแจ้งความ เพื่อนกลับไม่ว่าอะไรและให้เอกสารของแฟนชาวจีนมาด้วย ตนจึงไปแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง แต่สุดท้ายต้องผ่อนกุญแจเปล่าๆ มานานถึง 1 ปีเต็ม โดยที่ไม่ได้ใช้งานรถตัวเองเลย จนกระทั่งวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนั่งวินมอเตอร์ไซค์แถวถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ บังเอิญเห็นรถของตัวเองขับผ่านหน้าตาเฉย จำทะเบียนและสติกเกอร์ได้อย่างแม่นยำ จึงขอให้วินขี่ตาม ก่อนตัดสินใจกระโดดลงแล้ววิ่งไปเปิดประตูฝั่งคนขับเพื่อแย่งกุญแจคืน แต่ชายชาวจีนที่ขับรถไม่ยอมจอดและยังขับต่อไปเรื่อย … Read more