ระกาศ “กัมพูชา” หมดสัญญาจ้างแต่กลับไม่ได้ อยู่ต่อได้ 6 เดือน

ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๘ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ประกาศ กัมพูชา หมดสัญญาจ้างแต่กลับไม่ได้ อยู่ต่อได้อีก 6 เดือน ประกาศ กัมพูชา หมดสัญญาจ้างแต่กลับไม่ได้ อยู่ต่อได้อีก 6 เดือน โดยที่ประเทศไทยและประเทศต้นทางของคนต่างด้าวซึ่งมีสัญชาติกัมพูชา ได้ยกระดับมาตรการควบคุมการผ่านแดนในทุกจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เป็นเหตุให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักรในลักษณะไป-กลับ หรือตามฤดูกาล บริเวณชายแดนตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ครบวาระการจ้างงานหรือการอนุญาตให้พำนักในเขตพื้นที่ชายแดนสิ้นสุดลง แต่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้ สมควรให้คนต่างด้าวดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานต่อไปได้ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๘๗/๒๕๕๗ … Read more

ระกาศ “กัมพูชา” หมดสัญญาจ้างแต่กลับไม่ได้ อยู่ต่อได้ 6 เดือน

ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๘ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ประกาศ กัมพูชา หมดสัญญาจ้างแต่กลับไม่ได้ อยู่ต่อได้อีก 6 เดือน  ประกาศ กัมพูชา หมดสัญญาจ้างแต่กลับไม่ได้ อยู่ต่อได้อีก 6 เดือน  โดยที่ประเทศไทยและประเทศต้นทางของคนต่างด้าวซึ่งมีสัญชาติกัมพูชา ได้ยกระดับมาตรการควบคุมการผ่านแดนในทุกจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เป็นเหตุให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักรในลักษณะไป-กลับ หรือตามฤดูกาล บริเวณชายแดนตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ครบวาระการจ้างงานหรือการอนุญาตให้พำนักในเขตพื้นที่ชายแดนสิ้นสุดลง แต่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้ สมควรให้คนต่างด้าวดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานต่อไปได้ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๘๗/๒๕๕๗ … Read more

สดๆร้อนๆ!! เปิดเครื่องบินเจ็ต!! สุดหรูหลายพันล้านของอดีตนายกฯ‘ทักษิณ’ที่ใช้บินไปรับ…

สดๆร้อนๆ!! เปิดเครื่องบินเจ็ต!! สุดหรูหลายพันล้านของอดีตนายกฯ‘ทักษิณ’ที่ใช้บินไปรับ… วันที่ 18 ส.ค. 2568 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ลงนามในเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณี คลิปเสียงคุยโทรศัพท์กับฮุน เซน ภายหลังสิ้นสุดการขยายเวลาครั้งที่ 2 ในวันที่ 4 สิงหาคม นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตัวแทนของนายกฯ กำลังเดินทางไปส่งที่ศาลรัฐธรรมนูญ และตนเองมีความมั่นใจความบริสุทธิ์ใจของนายกฯ ที่จะทำให้ประเทศพ้นวิกฤติความรุนแรง ถือเป็นเจตนาสำคัญ ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการโทรศัพท์หารือกับผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้แทนทางการ เพื่อหาวิธีการที่จะขจัดความรุนแรงและความสูญเสียที่เกิดจากการปะทะให้ผ่านพ้นไปได้ในที่สุด ซึ่งสามารถยืดระยะเวลาได้ช่วงหนึ่ง และในที่สุดก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ อธิปไตยของเราถูกละเมิด ทางทหารเราต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาอธิปไตยและผืนแผ่นดินไทยอย่างสมเกียรติ นพ.พรหมินทร์ กล่าวอีกว่า ข้อกฎหมายต่าง ๆ ได้ชี้แจงอย่างรอบคอบ ซึ่ง นายกฯ ได้ระบุในการแก้ข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่พูดถึงเรื่องจริยธรรมอย่างชัดเจน จากนี้ขึ้นอยู่กับศาลฯ ว่าจะวินิจฉัยอย่างไร ส่วนตัวหวังว่าว่าคำตัดสินต่าง ๆ จะดำเนินการตามเจตนารมณ์และความมุ่งมั่น ในฐานะผู้นำประเทศที่จะนำประเทศไปสู่ความสันติโดยเร็ว … Read more

เชียงใหม่ประกาศเคอร์ฟิว

จากสถานการณ์วัยรุ่นตั้งแก๊งตระเวนออกอาละวาดก่ออาชญากรรม ทั้งชิงทรัพย์และทำร้าย สร้างความเดือดร้อนหวาดกลัวให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ต่อมา พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยถึงสถานการณ์นี้ว่า จากปัญหาเรื่องกลุ่มกลุ่มแก็งวัยรุ่นป่วนเมืองในพื้นที่ตำรวจภุธรภาค 5 โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่ที่พบว่าปัจจุบันมีทั้งกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นชาวไทยในพื้นที่ รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นคนต่างด้าว และคนพื้นที่สูง ที่มักจะรวมตัวกันสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวมากขึ้น ทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ได้เพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันจับกุม และกวาดล้างตั้งเป้าว่าจะต้องมีการจับกุมให้ได้ทุกคดีในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน รวมทั้งติดตามสืบสวนสอบสวนเพื่อหาเครือข่ายทำประวัติไว้เพื่อดำเนินการกวาดล้างครั้งใหญ่ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์หน้านี้เป็นต้นไป โดยจะใช้วิธีบุกบ้าน เป็นมาตรการเชิงรุก ต่อไปตำรวจจะไม่ตั้งรับแล้ว คือจะเข้าดำเนินการกวาดล้างจับกุมไปถึงที่อยู่ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก ที่อยู่อาศัยในลักษณะของชุมชนแออัดหรือหอพักเพื่อให้กลุ่มแก็งเหล่านี้หมดไปจากสังคม ในขณะที่ของตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่นั้นได้นำ พ.ร.บ.คุมครองเด็กและเยาวชน มาใช้ โดยเริ่มประกาศเคอร์ฟิวเด็ก ที่ผ่านมา ไม่ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุจำเป็น ซึ่งหากต้องออกมานอกบ้านก็จะต้องมีผู้ปกครองมาด้วย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบก็จะเข้าตรวจค้นตรวจสอบดูพฤติกรรม หากพบสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด อาวุธ ก็จะดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ซึ่งก็กำชับเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิจารณญาณในการตรวจสอบ ซึ่งปกติจะพบพฤติกรรมน่าสงสัยอยู่แล้วในการที่จะออกมาจับกลุ่มกันในยามวิกาล ซึ่งไม่เป็นปกติวิสัยของเยาวชนที่ดี แม้จะไม่พบสิ่งผิดกฎหมายก็จะมีการทำประวัติไว้

เชียงใหม่ประกาศเคอร์ฟิว

​ จากสถานการณ์วัยรุ่นตั้งแก๊งตระเวนออกอาละวาดก่ออาชญากรรม ทั้งชิงทรัพย์และทำร้าย สร้างความเดือดร้อนหวาดกลัวให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ต่อมา พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยถึงสถานการณ์นี้ว่า จากปัญหาเรื่องกลุ่มกลุ่มแก็งวัยรุ่นป่วนเมืองในพื้นที่ตำรวจภุธรภาค 5 โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่ที่พบว่าปัจจุบันมีทั้งกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นชาวไทยในพื้นที่ รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นคนต่างด้าว และคนพื้นที่สูง ที่มักจะรวมตัวกันสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวมากขึ้น ทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ได้เพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันจับกุม และกวาดล้างตั้งเป้าว่าจะต้องมีการจับกุมให้ได้ทุกคดีในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน รวมทั้งติดตามสืบสวนสอบสวนเพื่อหาเครือข่ายทำประวัติไว้เพื่อดำเนินการกวาดล้างครั้งใหญ่ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์หน้านี้เป็นต้นไป โดยจะใช้วิธีบุกบ้าน เป็นมาตรการเชิงรุก ต่อไปตำรวจจะไม่ตั้งรับแล้ว คือจะเข้าดำเนินการกวาดล้างจับกุมไปถึงที่อยู่ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก ที่อยู่อาศัยในลักษณะของชุมชนแออัดหรือหอพักเพื่อให้กลุ่มแก็งเหล่านี้หมดไปจากสังคม ในขณะที่ของตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่นั้นได้นำ พ.ร.บ.คุมครองเด็กและเยาวชน มาใช้ โดยเริ่มประกาศเคอร์ฟิวเด็ก ที่ผ่านมา ไม่ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุจำเป็น ซึ่งหากต้องออกมานอกบ้านก็จะต้องมีผู้ปกครองมาด้วย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบก็จะเข้าตรวจค้นตรวจสอบดูพฤติกรรม หากพบสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด อาวุธ ก็จะดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ซึ่งก็กำชับเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิจารณญาณในการตรวจสอบ ซึ่งปกติจะพบพฤติกรรมน่าสงสัยอยู่แล้วในการที่จะออกมาจับกลุ่มกันในยามวิกาล ซึ่งไม่เป็นปกติวิสัยของเยาวชนที่ดี แม้จะไม่พบสิ่งผิดกฎหมายก็จะมีการทำประวัติไว้

เชียงใหม่ประกาศเคอร์ฟิว

จากสถานการณ์วัยรุ่นตั้งแก๊งตระเวนออกอาละวาดก่ออาชญากรรม ทั้งชิงทรัพย์และทำร้าย สร้างความเดือดร้อนหวาดกลัวให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ต่อมา พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยถึงสถานการณ์นี้ว่า จากปัญหาเรื่องกลุ่มกลุ่มแก็งวัยรุ่นป่วนเมืองในพื้นที่ตำรวจภุธรภาค 5 โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่ที่พบว่าปัจจุบันมีทั้งกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นชาวไทยในพื้นที่ รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นคนต่างด้าว และคนพื้นที่สูง ที่มักจะรวมตัวกันสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวมากขึ้น ทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ได้เพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันจับกุม และกวาดล้างตั้งเป้าว่าจะต้องมีการจับกุมให้ได้ทุกคดีในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน รวมทั้งติดตามสืบสวนสอบสวนเพื่อหาเครือข่ายทำประวัติไว้เพื่อดำเนินการกวาดล้างครั้งใหญ่ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์หน้านี้เป็นต้นไป โดยจะใช้วิธีบุกบ้าน เป็นมาตรการเชิงรุก ต่อไปตำรวจจะไม่ตั้งรับแล้ว คือจะเข้าดำเนินการกวาดล้างจับกุมไปถึงที่อยู่ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก ที่อยู่อาศัยในลักษณะของชุมชนแออัดหรือหอพักเพื่อให้กลุ่มแก็งเหล่านี้หมดไปจากสังคม ในขณะที่ของตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่นั้นได้นำ พ.ร.บ.คุมครองเด็กและเยาวชน มาใช้ โดยเริ่มประกาศเคอร์ฟิวเด็ก ที่ผ่านมา ไม่ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุจำเป็น ซึ่งหากต้องออกมานอกบ้านก็จะต้องมีผู้ปกครองมาด้วย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบก็จะเข้าตรวจค้นตรวจสอบดูพฤติกรรม หากพบสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด อาวุธ ก็จะดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ซึ่งก็กำชับเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิจารณญาณในการตรวจสอบ ซึ่งปกติจะพบพฤติกรรมน่าสงสัยอยู่แล้วในการที่จะออกมาจับกลุ่มกันในยามวิกาล ซึ่งไม่เป็นปกติวิสัยของเยาวชนที่ดี แม้จะไม่พบสิ่งผิดกฎหมายก็จะมีการทำประวัติไว้

ราชกิจจาฯ กรมเจ้าท่าประกาศชื่อเรือเฝ้าระวังเพิ่ม 2 ลำ

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกรมเจ้าท่า ที่ ๑๕๕/๒๕๖๘ เรื่อง บัญชีเรือเฝ้าระวัง (ฉบับที่ ๓๓) ตามที่กรมเจ้าท่าได้ออกประกาศบัญชีเรือเฝ้าระวัง โดยได้มีการประกาศรายชื่อเรือที่ได้แจ้งแก่นายทะเบียนว่าสูญหายไป ถูกข้าศึกยึด ถูกเพลิงไหม้โดยสิ้นเชิง อับปาง ทำลาย หรือถูกละทิ้ง หรือเป็นเรือประมง เรือขนถ่ายสัตว์น้ำ เรือสนับสนุนการประมง และเรืออื่น ๆ ที่เจ้าของเรืออ้างว่าได้จำหน่าย จ่าย หรือโอนไปให้ผู้อื่น โดยไม่สามารถแสดงหลักฐานการจำหน่าย จ่าย หรือโอน และไม่สามารถติดตามหรือตรวจสอบได้ว่าเรืออยู่ที่ใด ตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช ๒๔๘๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นเรือในบัญชีเรือเฝ้าระวัง ซึ่งต่อมากรมเจ้าท่าได้ตรวจสอบเพิ่มเติม และปรากฏว่ามีเรือที่เข้าข่ายเป็นเรือที่ได้แจ้งแก่นายทะเบียนว่าสูญหายไป ถูกข้าศึกยึด ถูกเพลิงไหม้โดยสิ้นเชิง อับปาง ทำลาย หรือถูกละทิ้ง ตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช ๒๔๘๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่สมควรประกาศรายชื่อเรือเฝ้าระวังเพิ่มเติม จำนวน ๒ ลำ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ควบคุม และเฝ้าระวังมิให้มีการนำเรือจำนวน … Read more

โปรดเกล้าฯ ประกาศใหม่ด่วน! ทบ. !!วันนี้

  วันที่ 17 ส.ค.68 ทางเพจ กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกมาโพสต์แถลงการณ์ ว่า ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพลฯ ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย … Read more

โปรดเกล้าฯ ประกาศใหม่ด่วน! ทบ. !!วันนี้

  วันที่ 17 ส.ค.68 ทางเพจ กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกมาโพสต์แถลงการณ์ ว่า ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพลฯ ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย … Read more

โปรดเกล้าฯ ประกาศใหม่ด่วน! ทบ. !!วันนี้.

  วันที่ 17 ส.ค.68 ทางเพจ กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกมาโพสต์แถลงการณ์ ว่า ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพลฯ ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน … Read more

error: Content is protected !!