“ดัง พันกร” ขอโพสต์ถึง “กัน จอมพลัง” ตรง ๆ ชาวเน็ตถล่มไลก์สนั่น

“ดัง พันกร” ขอโพสต์ถึง “กัน จอมพลัง” ตรง ๆ ชาวเน็ตถล่มไลก์สนั่น ล่าสุดเรียกได้ว่ามีการตั้งคำถามจากชาวเน็ตบางรายถึง กัน จอมพลัง ในแนวที่ว่า ทำดีเอาหน้า สร้างภาพ ต่าง ๆ นา ๆ ล่าสุด “ดัง พันกร” นักร้องดัง โพสต์ข้อความระบุ       เห็นเยอะนะ คนไปว่าคุณกันจอมพลัง ว่าเอาหน้า สร้างภาพ ทำคอนเทนต์ บลาๆ       อยากจะบอกคุณกันและอินฟลูทุกท่านว่า ไม่สำคัญว่าใครจะนิยามว่าอะไร       ถ้าสิ่งที่ทำมันเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ คุณคือคนที่ทำเพื่อชาติครับ

หัวหน้าทีมเปิดใจกับ กัน จอมพลัง เผยนาทีชีวิต แบกร่างพลทหารธีรยุทธกลางดงกระสุนเขมร

วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 จากสถานการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่นำมาซึ่งการสูญเสียกำลังพล ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก กันจอมพลัง ช่วยสู้ ได้โพสต์ภาพและข้อความที่สร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่ง เผยเรื่องราวของหัวหน้าชุดที่ต้องแบกร่างของ พลทหารธีรยุทธ กระจ่างทอง วีรชนผู้พลีชีพ กลับคืนสู่ครอบครัว ข้อความจากเพจกันจอมพลัง ระบุถึงความกล้าหาญและความเสียสละของหัวหน้าชุดดังกล่าว โดยเล่าว่า ใบหน้าของหัวหน้าที่แบกร่างของน้องธีรยุทธ กระจ่างทอง กลับมาคืนสู่ครอบครัว หลังจากที่น้องธีรยุทธ ได้จากไปในสนามรบสมรภูมิเขมร หัวหน้าชุดได้เล่าเหตุการณ์ในสมรภูมิให้ฟังว่า พวกเขากันอยู่ 5 คน ตอนนั้นเขมรสาดบึ้มเข้ามาหาพวกน้องอย่างหนัก พอสิ้นเสียงลงหัวหน้าจึงขานเรียก ในทีมขานตอบเกือบหมดยกเว้นน้องธีรยุทธ ทุกคนจึงพยายามสาดกระสุนใส่เขมรและคลานหาร่างน้องจนเจอ และแบกร่างน้องออกจากสมรภูมิ เพจกันจอมพลังกล่าวชื่นชมความกล้าหาญของหัวหน้าชุด โดยหัวหน้าได้ตอบกลับมาด้วยใบหน้าเปื้อนความเศร้าว่า พวกผมสัญญากันไว้ว่าจะไม่ทิ้งกัน จะพาทุกคนกลับบ้าน ข้อความดังกล่าวเน้นย้ำถึงความผูกพันและคำมั่นสัญญาของเหล่าทหารในยามศึกสงคราม โพสต์ดังกล่าวได้แสดงความเห็นใจและให้กำลังใจหัวหน้าชุดว่า วันนี้หัวหน้าทำได้ดีมากๆ แล้วก็รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับน้อง จริงๆ แล้วทุกอย่างไม่ใช่ความผิดของหัวหน้า ไม่มีใครอยากให้เกิด พี่เป็นกำลังใจให้ครับ เรื่องราวนี้สะท้อนถึงความเสียสละและความผูกพันอันแน่นแฟ้นของทหารหาญที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : กันจอมพลัง ช่วยสู้ เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์

ด่วน! 3 ตำรวจ สังเวยจากเหตุเฮลิคอปเตอร์โหม่งพื้น

เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand รายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่29 กรกฎาคม 2568 เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติตก บริเวณแยกประจวบ พื้นที่กองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต พร้อมโพสต์ภาพ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกิดไฟลุกไหม้และเสียหายทั้งลำ เหลือเพียงแค่ส่วนหาง เปิดชื่อ 3 ผู้เสียชีวิต จากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์นี้ เบื้องต้นได้รับรายงานมีตำรวจเสียชีวิต 3 ราย ได้แก่ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ นักบิน, ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย นักบิน และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง   ผบ.ตร.สั่งการด่วนไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเหตุการณ์โดยด่วน และช่วยเหลือเยียวยาให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต และในนามสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอไว้อาลัยและแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียในครั้งนี้  

รู้แล้วอยู่ไหน 2 สาวเขมร ถือธงชาติไทยเหยียบ ทำคลิปยั่วยุ

วันที่ 30 ก.ค.68 มีรายงานการตรวจสอบ ประเด็นทางสื่อสังคมออนไลน์ กรณีหญิงคล้ายต่างด้าว กระทำการไม่เหมาะสม จากคลิปวิดีโอปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีหญิงสาวคาดว่าเป็นชาวกัมพูชาแต่งกายคล้ายคนงานก่อสร้าง มีแสงสะท้อนแสงสีเขียว มีภาษาเขียนบนหน้าอกและภาษาอังกฤษเขียนว่า “NT2C group” โดยได้มีการตบคล้ายจะตีกันโวยวายบนพื้นที่แคบและเหยียบดังกล่าว ตม.จว.ปราจีนบุรี ได้ตรวจสอบพบบัญชี Tiktok ต้นทางของคลิปดังกล่าว ชื่อ “Kä Kä” และได้ตรวจสอบภาพในคลิปวิดีโออื่นที่อยู่ในบัญชีดังกล่าว พบว่ามีการใช้โทรศัพท์มือถือเครือข่าย Smart ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ใช้ในประเทศกัมพูชา ประกอบกับวันนี้ (30 ก.ค. 68) ได้ร่วมตรวจสอบกับตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี (ในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี และ ศรีมหาโพธิ์ ซึ่งมีข้อคิดเห็นในเชิงเชื่อว่าคนต่างด้าวดังกล่าวอยู่ในพื้นที่นี้ผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีบริษัทดังกล่าวเข้ามาทำงานในพื้นที่ และคนต่างด้าวดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีทั้งนี้ ตม.จว.ปราจีนบุรี ได้จับภาพใบหน้าที่ปรากฏบนสื่อโซเชียลดังกล่าว มาตรวจสอบในระบบไบโอเมทริกซ์ ไม่ปรากฏว่ามีการเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด

ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!

ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!

ด่วน!! กองทัพภาคที่ 2 ฉะเดือด…

เมื่อเวลา 13.46 น. วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง ได้เผยเเพร่ข้อมูลเกี่ยวกรณีที่ฝ่านกัมพูชามีการเพิ่มเติมกำลัง ตลอดแนวพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Wassana Nanuam โดยระบุว่า ทัพภาค2 แฉ ทหารเขมรเพิ่มเติมกำลังในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ผิดข้อตกลง หยุดยิง จากการตวรจสอบ พบ UAV ไม่ทราบฝ่าย บินตรวจการณ์ที่ตั้งการวางกำลังของฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ช่องอานม้า ภูมะเขือ สัตตะโสม ปราสาทโดนตรวล ภูผี ช่องจอม ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 (ณ เวลา 10.00 น.) ว่า ปรากฏความเคลื่อนไหวของกำลัง ทหารกัมพูชา ดังนี้ 1. ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลัง และเสริมความมั่นคงของกำลังประเทศกัมพูชา ในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 2. ตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรนไม่ทราบฝ่าย ไม่ทราบชนิด) … Read more

ทบ.ลั่น ปราสาทตาควาย ไทย-เขมร คุมคนละฝั่ง ยึดไม่ได้ 100%

เกิดกระแสวิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง หลังจากนักข่าวชาวกัมพูชาโพสต์ภาพตนเองถ่ายร่วมกับทหารกัมพูชา ผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความระบุว่า “วัดตาควาย 30 ก.ค. 68” ในทำนองว่า ฝ่ายเขมรสามารถยึดปราสาทตาควายได้แล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สะดุดสายตาชาวเน็ตคือ ในภาพดังกล่าวปรากฏทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 วางอยู่ถึง 5 ลูก สร้างความตื่นตระหนกและตั้งคำถามถึงการละเมิดกฎการสู้รบ ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า ขณะนี้ กองทัพไทยยังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ปราสาทตาควายได้ 100% แต่สามารถควบคุมพื้นที่โดยรอบได้มากขึ้นกว่าก่อนเกิดเหตุปะทะ โดยมีการแบ่งพื้นที่ควบคุมคนละฝั่งกับทหารกัมพูชา เนื่องจากทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการยึดถือข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลถึงเที่ยงคืนของวันที่ 30 ก.ค. ทั้งนี้ มีรายงานว่า ฝ่ายกัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 รอบพื้นที่ปราสาทตาควายเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ “หมวดบุ๊ค” นายทหารไทยผู้หนึ่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส สูญเสียขาขวาขณะนำกำลังกรุยทางเข้าไป ในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารในแนวหน้าได้ตัดสินใจชะลอการรุกเข้าไป เพื่อรักษาชีวิตกำลังพลจากการถูกซุ่มโจมตีด้วยทุ่นระเบิด การวางระเบิดชนิด PMN-2 ดังกล่าว ถือเป็นการละเมิด อนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศที่ห้ามการใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนกับทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mines) โดยประเทศไทยและกัมพูชา … Read more

รู้แล้วอยู่ไหน 2 สาวเขมร ถือธงชาติไทยเหยียบ ทำคลิปยั่วยุ

วันที่ 30 ก.ค.68 มีรายงานการตรวจสอบ ประเด็นทางสื่อสังคมออนไลน์ กรณีหญิงคล้ายต่างด้าว กระทำการไม่เหมาะสม จากคลิปวิดีโอปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีหญิงสาวคาดว่าเป็นชาวกัมพูชาแต่งกายคล้ายคนงานก่อสร้าง มีแสงสะท้อนแสงสีเขียว มีภาษาเขียนบนหน้าอกและภาษาอังกฤษเขียนว่า “NT2C group” โดยได้มีการตบคล้ายจะตีกันโวยวายบนพื้นที่แคบและเหยียบดังกล่าว ตม.จว.ปราจีนบุรี ได้ตรวจสอบพบบัญชี Tiktok ต้นทางของคลิปดังกล่าว ชื่อ “Kä Kä” และได้ตรวจสอบภาพในคลิปวิดีโออื่นที่อยู่ในบัญชีดังกล่าว พบว่ามีการใช้โทรศัพท์มือถือเครือข่าย Smart ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ใช้ในประเทศกัมพูชา ประกอบกับวันนี้ (30 ก.ค. 68) ได้ร่วมตรวจสอบกับตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี (ในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี และ ศรีมหาโพธิ์ ซึ่งมีข้อคิดเห็นในเชิงเชื่อว่าคนต่างด้าวดังกล่าวอยู่ในพื้นที่นี้ผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีบริษัทดังกล่าวเข้ามาทำงานในพื้นที่ และคนต่างด้าวดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีทั้งนี้ ตม.จว.ปราจีนบุรี ได้จับภาพใบหน้าที่ปรากฏบนสื่อโซเชียลดังกล่าว มาตรวจสอบในระบบไบโอเมทริกซ์ ไม่ปรากฏว่ามีการเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด

กองทัพบก แถลงด่วน! หลัง ฮุนมาเนต จี้ส่งตัว 18 ทหารเขมร กลับประเทศ

วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 มีรายงานว่า ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณี นายฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา โพสต์ข้อความ เร่งรัดให้ส่งตัวทหารกัมพูชา 18 นายกลับประเทศ โดยอ้างว่าได้มีการประสานงานกองทัพบก และ กระทรวงกลาโหม รวมถึง และ กองทัพมาเลเซีย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก พล.ต.วินธัย กล่าวว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ชี้แจงกับ พลเอก ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย ไปแล้ว หลังที่ได้มีการพบกันเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะดูแลเป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายสากล และจะรีบส่งกลับเมื่อเสร็จขั้นตอนตามกฎหมาย

โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ประกาศงดรับผู้ป่วยชาวกัมพูชา

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2568 โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ออกหนังสือประกาศเรื่อง ขอยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารชาวกัมพูชา และการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา โดยระบุใจความว่า โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ประกาศงดรับผู้ป่วยชาวกัมพูชา  ด้วย โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ทั้งผู้ป่วยไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารับการรักษาต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดน ไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1. ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารชาวกัมพูชา และจิตอาสาต่างประเทศ 2. ปิดการให้บริการ SMC Ptemium ชั่วคราว 3. ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา 4. ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ให้จำกัดพื้นที่ให้ชัดเจน ในการนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึง 10 สิงหาคม 2568 นพ.ธวัชชัย ทองประเสริฐ ประธานคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ  

error: Content is protected !!