News​ Thailand​

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงฯ กองบัญชาการกองทัพไทย หรือที่หลายคนเรียกว่า เสธเบิร์ด ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Wanchana Sawasdee พร้อมตั้งคำถามแรง กัมพูชา ศูนย์กลางฟอกเงินโลก พล.ต.วันชนะ สวัสดี พร้อมระบุหลักฐานแน่นหนาและน่าตกใจว่า ประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา กำลังกลายเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญของการฟอกเงินระดับโลก โดยมีเบื้องหลังโยงใยถึงการหลอกลวงไซเบอร์และอาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ โดยระบุว่า กัมพูชา ศูนย์กลางฟอกเงินโลก หลักฐานชัดเจน กัมพูชาผงาดเป็น ศูนย์กลางฟอกเงินสำคัญ โดยเฉพาะกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับ การหลอกลวงไซเบอร์ขนาดใหญ่ และอาชญากรรมอื่นๆ นี่คือภาพรวม โพสต์ดังกล่าวจาก Wanchana Sawasdee UNODC และ FinCEN ยืนยัน UNODC ระบุว่ากัมพูชาเป็นพื้นที่หลักของ การฉ้อโกงไซเบอร์ที่สร้างรายได้มหาศาล FinCEN ของสหรัฐฯ ยังขึ้นบัญชีดำกลุ่ม Huione ในกัมพูชา ในข้อหา ฟอกเงินอย่างน้อย 4 พันล้านดอลลาร์ จากการหลอกลวงและโจมตีไซเบอร์ ทั้งนี้ เสธเบิร์ด ยังได้เผยอีกว่า FATF … Read more

วันที่ 4 ส.ค. 2568 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ลงนามในเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณี คลิปเสียงคุยโทรศัพท์กับฮุน เซน ภายหลังสิ้นสุดการขยายเวลาครั้งที่ 2 ในวันที่ 4 สิงหาคม นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตัวแทนของนายกฯ กำลังเดินทางไปส่งที่ศาลรัฐธรรมนูญ และตนเองมีความมั่นใจความบริสุทธิ์ใจของนายกฯ ที่จะทำให้ประเทศพ้นวิกฤติความรุนแรง ถือเป็นเจตนาสำคัญ ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการโทรศัพท์หารือกับผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้แทนทางการ เพื่อหาวิธีการที่จะขจัดความรุนแรงและความสูญเสียที่เกิดจากการปะทะให้ผ่านพ้นไปได้ในที่สุด ซึ่งสามารถยืดระยะเวลาได้ช่วงหนึ่ง และในที่สุดก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ อธิปไตยของเราถูกละเมิด ทางทหารเราต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาอธิปไตยและผืนแผ่นดินไทยอย่างสมเกียรติ       นพ.พรหมินทร์ กล่าวอีกว่า ข้อกฎหมายต่าง ๆ ได้ชี้แจงอย่างรอบคอบ ซึ่ง นายกฯ ได้ระบุในการแก้ข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่พูดถึงเรื่องจริยธรรมอย่างชัดเจน จากนี้ขึ้นอยู่กับศาลฯ ว่าจะวินิจฉัยอย่างไร ส่วนตัวหวังว่าว่าคำตัดสินต่าง ๆ จะดำเนินการตามเจตนารมณ์และความมุ่งมั่น ในฐานะผู้นำประเทศที่จะนำประเทศไปสู่ความสันติโดยเร็ว … Read more

จากกรณีที่สื่อกัมพูชาหลายสำนัก รวมถึงบุคคลสำคัญอย่าง สมเด็จฮุนเซน, นายฮุน มาเนต และโฆษกกองทัพกัมพูชา ได้ออกมากล่าวอ้างว่า กองทัพบกไทยได้สั่งอพยพชาวบ้านในจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตี ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมายืนยันและชี้แจงตั้งแต่เมื่อวานนี้จนถึงเช้าวันนี้ (4 ส.ค. 68) ว่าข้อมูลดังกล่าว ไม่เป็นความจริง และในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ไม่มีการสั่งอพยพด่วน ตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด โฆษกกองทัพบกยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาที่ผ่านมา ไม่มีความน่าเชื่อถือ จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และ ไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จ ที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม แม้ว่ากองทัพบกจะยืนยันในความเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิด เนื่องจากที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชามีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง และยังพบว่ามีการ เพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เข้ามาในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 4 ส.ค. 2568 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ลงนามในเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณี คลิปเสียงคุยโทรศัพท์กับฮุน เซน ภายหลังสิ้นสุดการขยายเวลาครั้งที่ 2 ในวันที่ 4 สิงหาคม นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตัวแทนของนายกฯ กำลังเดินทางไปส่งที่ศาลรัฐธรรมนูญ และตนเองมีความมั่นใจความบริสุทธิ์ใจของนายกฯ ที่จะทำให้ประเทศพ้นวิกฤติความรุนแรง ถือเป็นเจตนาสำคัญ ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการโทรศัพท์หารือกับผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้แทนทางการ เพื่อหาวิธีการที่จะขจัดความรุนแรงและความสูญเสียที่เกิดจากการปะทะให้ผ่านพ้นไปได้ในที่สุด ซึ่งสามารถยืดระยะเวลาได้ช่วงหนึ่ง และในที่สุดก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ อธิปไตยของเราถูกละเมิด ทางทหารเราต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาอธิปไตยและผืนแผ่นดินไทยอย่างสมเกียรติ นพ.พรหมินทร์ กล่าวอีกว่า ข้อกฎหมายต่าง ๆ ได้ชี้แจงอย่างรอบคอบ ซึ่ง นายกฯ ได้ระบุในการแก้ข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่พูดถึงเรื่องจริยธรรมอย่างชัดเจน จากนี้ขึ้นอยู่กับศาลฯ ว่าจะวินิจฉัยอย่างไร ส่วนตัวหวังว่าว่าคำตัดสินต่าง ๆ จะดำเนินการตามเจตนารมณ์และความมุ่งมั่น ในฐานะผู้นำประเทศที่จะนำประเทศไปสู่ความสันติโดยเร็ว นอกจากนี้ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า … Read more

2 ส.ค. 2568 เวลา 10:32 น. เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางลงพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจกำลังพลที่ประจำการตามฐานปฏิบัติการต่างๆ ในโอกาสนี้ พลโท บุญสินได้มอบสิ่งของจำเป็น เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง และให้โอวาทแก่กำลังพล โดยได้กล่าวขอบคุณทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ พร้อมยืนยันว่าการกระทำของทหารนั้นถูกต้องแล้ว และขอให้ทุกคนตระหนักเสมอว่าผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นพร้อมจะเคียงข้างอยู่เสมอ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกคนอย่าประมาทและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่า พลโท บุญสินได้พักค้างคืนร่วมกับทหารตามแนวชายแดนตลอดทั้งคืน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยและความใกล้ชิดกับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จริง

เรียกได้ว่า กลายเป็นประเด็นที่สร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลังกลิ่นแรงลอยโชยจากพื้นที่ปะทะชายแดน บริเวณเนินมะกอก และภูมิมะกอก ที่ยังคงเป็นจุดสู้รบหลักระหว่างไทย และกัมพูชา โดย พล.ต. วัญชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เผยว่า กลิ่นดังกล่าวอาจสะท้อนถึงจำนวนผู้เสียชีวิต จากฝั่งกัมพูชา ที่มากกว่าตัวเลขที่ทางการกัมพูชา แถลงออกมา     ซึ่ง พล.ต. วัญชนะ ยังตั้งข้อสังเกตว่า การที่ กัมพูชา ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ใช่ทหารของตนเอง เป็นการแสดงความไม่รับผิดชอบ และไม่ให้เกียรติผู้ที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ อาจกระทบต่อขวัญกำลังใจของทหาร และครอบครัวผู้สูญเสีย นอกจากนี้ พล.ต. วัญชนะ ยังเปรียบเทียบการดูแลของไทย เขา กล่าวว่า ทหารไทย ได้รับความใส่ใจจากทั้งผู้บังคับบัญชา และสังคม ไม่ถูกทอดทิ้งแม้ยามสูญเสีย ถือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี และความเป็นมนุษย์ เสียงสะท้อนจากกองทัพไทยครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นความแตกต่างในวิธีปฏิบัติต่อกำลังพล และเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันทางการเมือง ที่กำลังปะทุขึ้นในบริบทของความขัดแย้งที่ยังไม่สิ้นสุด เรียบเรียงโดย news.in.th