News​ Thailand​

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 3 แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 3 VDO

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.68 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ชื่อ Wasita Suwannasee ได้โพสต์คลิปวิดีโอของแม่ทัพภาคที่ 2 กับ ภรรยา ที่ยอมเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อประเทศชาติ ซึ่งนับเป็นหนึ่งบุคคลที่มีความสำคัญ และทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ ถึงแม้ว่าจะมีสิทธิ์พักผ่อน 10 วันหลังจากปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่อง 45 วัน แต่ ท่านแม่ทัพ กลับเลือกที่จะไม่ใช้สิทธิ์นั้น สละชีวิตส่วนตัวเพื่องาน โดยเขาได้กล่าวว่า มีโทรศัพท์หากันบ้าง คุยทางอินเตอร์เน็ตให้เห็นหน้าครอบครัว ภรรยา กับลูก บ้าง ให้เหมือนกับว่าไม่ไกลกันนัก นานๆทีก็จะกลับมาพักที ไม่ให้เสียทั้งครอบครัวและงานในหน้าที่ด้วย ส่วนทางด้านภรรยาท่านแม่ทัพ ได้เปิดเผยถึง การทำงานที่ห่างไกลกันว่า ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด โดยกล่าวว่า การติดต่อของเราก็คือใช้อินเตอร์เน็ต ใช้ Skype ได้เห็นหน้ากัน ลูกๆ ก็จะไม่รู้สึกว่าพวกเขาอยู่ห่างพ่อ พวกเขาก็จะเห็นพ่อตลอด ส่วนการโทรศัพท์หากัน เราจะไม่เป็นฝ่ายโทรไปรบกวน เพราะเราไม่ทราบว่าเวลานั้นเวลานี้ทำอะไร เมื่อไรที่เขาว่างก็จะโทรกลับมาเอง ทั้งนี้การเสียสละของท่านแม่ทัพ นั้น ยิ่งทำให้ประชาชนรักและเคารพ ภาคภูมิใจในบทบาทหน้าที่ของท่านแม่ทัพ ที่ยอมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง และถือเป็นตัวอย่างของผู้นำที่ทุ่มเทเพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง เรียบเรียงโดย มุมข่าว

วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เพจเฟซบุ๊กทางการของ กองทัพภาคที่ 2 ได้เผยแพร่ข้อความแจ้งข่าวด่วนว่า เกิดเหตุการณ์ทหารในสังกัด ประสบเหตุระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ ล่าสุด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้ออกมาแถลงสถานการณ์ ว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ขอแถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทางเพื่อวางลวดหนามป้องกัน พื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา โดยมี จ.ส.อ. ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบ เส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 พ.2) ดังนี้ 1. … Read more

กรณีประกาศ ราชกิจจานุเบกษา ในหลวง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ชั้นที่ ๔ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๘ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ชั้นที่ ๔ แก่ นางยุวดี นาคะผดุงรัตน์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ประกาศ ณ วันที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นปีที่ ๑๐ ในรัชกาลปัจจุบัน

ด่วน!! ราชกิจจานุเบกษา มทภ.2………… พล.ท.บุญสิน พาดาม ผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 2 และแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่มีอะไรน่ากังวล หากมีการเจรจาทำความเข้าใจกันอย่างต่อเนื่อง แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด กองทัพก็พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มที่ เมื่อถูกถามถึงความจริงใจของฝ่ายกัมพูชาตามที่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวไว้ พล.ท.บุญสิน ระบุว่า กองทัพมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและไม่ประมาท โดยยืนยันว่าฝ่ายไทยต้องแสดงความจริงใจก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่ทหารกัมพูชาเข้ามาตัดรั้วลวดหนามที่ช่องอานม้า พล.ท.บุญสิน ชี้แจงว่า เป็นการเข้ามาทำคอนเทนต์ และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการขับไล่ออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งได้วางรั้วลวดหนามใหม่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฐานที่มั่นของฝ่ายไทย โดยยอมรับว่าทุ่นระเบิดในพื้นที่ยังมีอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะต้องประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อเก็บกู้ร่วมกัน สำหรับกรณีร่างทหารกัมพูชาที่ตกค้างบริเวณฐานปฏิบัติการภูมะเขือ พล.ท.บุญสิน เผยว่า ได้มีการประสานให้ฝ่ายกัมพูชาเข้ามารับศพไปแล้ว เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และยืนยันว่าฝ่ายไทยจะไม่ดำเนินการเก็บกู้ให้ ขณะที่กรณีที่สมเด็จฮุน เซน โพสต์ข้อความไม่ต้องการให้ไทยใช้เครื่องบินรบ F-16 และเรียกร้องนานาชาติไม่ให้ขายเครื่องบินรบให้ไทยนั้น พล.ท.บุญสิน ระบุว่าเป็นเรื่องภายในของฝ่ายไทย และยืนยันว่ากองทัพจะใช้เครื่องบินรบเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศเท่านั้น

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในสื่อสังคมออนไลน์ว่า พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาบริเวณชายแดน ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนกให้กับประชาชน ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 พล.ท. บุญสิน พาดกลาง ได้ออกมาชี้แจงและยืนยันอย่างชัดเจนว่า ข้อมูลดังกล่าว ไม่เป็นความจริง และตนไม่เคยมีคำสั่งในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด โดยทาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่าข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ  พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าผู้เสียชีวิตที่ถูกกล่าวอ้างเป็นชาวกัมพูชา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร และไม่ส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จต่อไป