อนาคตราชวงศ์ไทยกับคำทำนายลับ: เจ้าฟ้าทีปังกรฯ สะเทือนบัลลังก์

  ในโลกของราชวงศ์ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยบังเอิญเสียงกระซิบแห่งโชคชะตาบางครั้งมาในรูปของคำทำนายบางครั้งมาในรูปของเด็กชายตัวเล็กตัวเล็กผู้เงียบขลึมและบางครั้งมาในเวลาที่ไม่มีใครคาดคิดณดินแดนที่วัฒนธรรมศาสนาและราชบัลลังก์ถักท้อเป็นหนึ่งเดียวมีความเชื่อหนึ่งดำรงอยู่มายาวนานว่าผู้ที่จะเป็นกษัตริย์มิใช่แค่มีสายเลือดกษัตริย์แต่ต้องเป็นผู้ถูกเลือกโดยฟ้าในประวัติศาสตร์ไทยไม่ใช่ทุกพระโอรสจะได้ขึ้นครองราชย์แต่เกือบทุก กษัตริย์ล้วนมีคำทำนายที่ล้อมรอบพระองค์เมื่อรัชกาลที่4ทรงขึ้นครองราชย์มีคำพยากรณ์จากพราหมณ์หลวงว่าพระองค์จะนำพระศาสนาและวิทยาการมาสู่แผ่นดินเมื่อรัชกาลที่9เสด็จขึ้นครองราชย์ในวัยเยาประชาชนบางส่วนยังไม่แน่ใจแต่คำธรรมนายเก่าแก่ในภาคเหนือกลับกล่าวไว้ว่าจะมีพระมหากษัตริย์ผู้เป็นดั่งพ่อของแผ่นดินและวันนี้คำถามเดิมกลับมาอีกครั้งใครจะเป็นพระราชาองค์ต่อไปหลายคนอาจมีชื่อในใจหลายคนอาจคาดเดาจากข่าวลือแต่หากเรามองผ่าน ม่านของการเมืองผ่านเงาของประวัติศาสตร์และเงี่ยหูฟังเสียงของดวงดาวเราจะพบชื่อหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในแทบทุกค่ำทำนายเจ้าฟ้าทีพังกรรัศมีโชติพระโอรสที่แมจะเงียบงันไม่เป็นข่าวแต่กลับถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าในฐานะผู้ที่อาจจะเป็นสะพานแห่งยุคใหม่ในสมัยโบราณคำทำนายเปรียบเสมือนแผนที่นำทางราชบัลลังก์วันนี้แม้โลกจะเปลี่ยนไปผู้คนก็ยังคงเฝ้ารอใครบางคนที่ถูกลิขิตให้มาเพราะในราชสำนักไม่มีใครขึ้นสู่บัลลังก์โดยไม่มีเรื่องเล่าและ เรื่องเล่าครั้งใหม่อาจเริ่มขึ้นแล้วในบรรดาพระโอรสทั้งหมดของพระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัวมีเพียง1พระองค์เท่านั้นที่ยังคงอยู่ภายใต้พระกรุณาธิคุณที่ยังทรงได้รับการเลี้ยงดูแลและพัฒนาอย่างใกล้ชิดนั่นคือเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติแต่ก่อนจะไปถึงพระนามนี้เราควรย้อนมององค์รวมของราชวงศ์ในยุคปัจจุบันให้ชัดเจนก่อนพระโอรสทั้ง4พระองค์จากหม่อมสุจรินีวิวัฒวงศ์ในช่วงปี2532538พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันทรงมีพระโอรสกับหม่อมสุจรินณีวิวัฒวงศ์ซึ่งต่อมาได้ ทรงมีพระโอรส4พระองค์ได้แก่จุทธาวัฒวิวัฒวงศ์วัดเยวิวัฒวงศ์จักรีวัฒวิวัฒวงศ์วัดวีวิวัฒงศ์พระโอรสทั้ง4พระองค์นี้มิได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าฟ้าหรือพระราชโอรสโดยชอบด้วยกฎหมายพระมารดาหม่อมสุจจารณีถูกปลดจากฐานันดรศักดิ์และออกนอกประเทศในปีพุทธศักราช2539ตั้งแต่นั้นมาพระโอรสทั้ง4พระองค์ก็ถูกกันออกจากขอบเขตราชสำนักไทยแม้ในช่วงหลังพระโอรสบางพระองค์เช่นวัดเยสและจักรีวรรได้เดินทางกลับมาเยี่ยมประเทศไทยแต่ก็ไม่มีพระราชโองการหรือประกาศใดฟื้นฟูสถานะ ทางราชการนั่นทำให้สายพระโลหิตนี้หลุดพ้นจากลำดับการสืบราชสันตีวงศ์อย่างสิ้นเชิงแล้วทำไมเจ้าฟ้าทีปังกรจึงแตกต่างเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติทรงประสูติเมื่อปีพุทธศักราช2548เป็นพระราชโอรสที่ประสูติจากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัตน์ผู้ซึ่งได้รับการสถาปนาเป็นพระชายาโดยชอบด้วยกฎหมายแม้ในภายหลังจะถูกปลดจากฐานันดรศักดิ์ในปีพุทธศักราช2500157แต่เจ้าฟ้าทีปังกรมิได้ถูกแตะต้องหรือถูกลดฐานตามไปด้วยตรงกันข้ามพระองค์กลับยังทรงดำรงพระ เกียรติยศในฐานะพระราชโอรสโดยชอบด้วยกฎหมายและยังคงได้รับการสนับสนุนในทุกด้านจากสถาบันพระมหากษัตริย์หลักฐานสำคัญคือในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกปีพุทธศักราช2562เจ้าฟ้าทีปังกรทรงมีบทบาทสำคัญในการถวายพระแสงขันธ์ชัยศีแด่พระราชบิดาซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีการที่สงวนไว้สำหรับผู้สืบราชสันตติวงศ์ที่ได้รับการพิจารณาแล้วอีกทั้งในชีวิตประจำวันแม้จะทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมนีแต่พระองค์ยังได้รับการดูแลจากครูเฉพาะทางและคณะทำงานที่ติดตามอย่าง ใกล้ชิดแม้มีรายงานว่าพระองค์เงียบขลึงและมีความท้าทายด้านพัฒนาการแต่พระองค์กลับทรงมุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝนตนเองด้วยวินัยและความเพียรตามพระราชบัญญัติการสืบราชสันตติวงศ์พุทธศักราช2467ผู้มีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์ต้องเป็นพระราชโอรสโดยชอบด้วยกฎหมายของพระมหากษัตริย์และมิได้ถูกตัดสิทธิ์โดยพระราชโองการเมื่อพิจารณาตามกฎหมายราชประเพณีและพฤติการที่ปรากฏเจ้าฟาทีปังกรจึงเป็นพระองค์เดียวที่ยังคงอยู่ในแผนที่แห่งอนาคตบางครั้งการไม่ถูกกล่าวถึงคือสัญญาณว่า เขากำลังถูกจับตามองอย่างลึกซึ้งที่สุดในราชสำนักไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยบังเอิญการทรงเงียบอยู่ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของโลกอาจมิใช่ความบังเอิญแต่นั่นคือความพร้อมที่กำลังก่อตัวอย่างเงียบงันรอวันปลุกแผ่นดินอีกครั้งผู้คนอาจเลือกผู้นำจากเสียงปรบมือแต่ดวงดาวเลือกจากความถี่ของวิญญาณในโลกตะวันตกโหราศาสตร์อาจถูกมองว่าเป็นความเชื่อเก่าแต่ในโลกของราชสำนักไทยมันคือภาษาของฟ้าภาษาที่ใช้ตีความพลังจังหวะและโชคชะตาของทั้งประเทศ และของพระราชาการประสูติของเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติเกิดขึ้นในช่วงปีพุทธศักราช2548ซึ่งตามโหราศาสตร์ไทยและสากลเป็นช่วงที่ดาวพฤหัสบดีเคลื่อนเข้าสู่ราศีธนูราศีแห่งสติปัญญาความเป็นผู้นำการเรียนรู้และความยุติธรรมดวงชะตาแห่งผู้ฟื้นฟูในหมู่นักพยากรณ์ดวงดาวมีแนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจว่าผู้ที่เกิดภายใต้ดาวพฤหัสราศีธนูมักจะมีพลังบารมีเย็นคือauthorityคือไม่ใช่ผู้นำที่ใช้เสียงดังหรือกดเหล็กแต่เป็นผู้นำที่ใช้ความอดทนสติและความลุ่มลึกใน จิตใจและที่สำคัญเจ้าฟ้าทีปังกรมีดาวดาวเสาร์ในตำแหน่งที่เข้มแข็งดาวเสาร์ในศาสตร์โบราณคือผู้ทดสอบผู้ที่ผ่านบททดสอบของดาวนี้มักจะกลายเป็นผู้นำที่มั่นคงไม่หวั่นไหวต่อเสียงนินทาหรือแรงเสียดทานของโลกจึงไม่น่าแปลกใจที่แม้พระองค์จะไม่เคยแสดงพระองค์ต่อสื่อมากนักแต่กลับได้รับความสนใจอย่างเงียบๆจากกลุ่มนักโหรศาสตร์ที่ต่างกล่าวว่าดาวของพระองค์กำลังเดินเข้าสู่ตำแหน่งพลังสูงสุดในทดวันี้พลังที่เติบโตท่ามกลางความเงียบไม่มีคำแถลง ไม่มีคำสัมภาษณ์ไม่มีพระราชดำรัสต่อสาธารณะแต่ในทุกพระราชพิธีสำคัญพระองค์กลับอยู่ตรงนั้นเสมอในศาสตร์โหรศาสตร์มีหลักหนึ่งกล่าวว่าผู้ที่เงียบที่สุดมักส่งสัญญาณแรงที่สุดต่อจักรวาลและสัญญาณนั้นคือความเปลี่ยนแปลงที่ใกล้เข้ามาความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าชะตาในทุกยุคของประวัติศาสตร์มักจะมีผู้หนึ่งที่ถูกเลือกให้เดินข้ามสะพานระหว่างยุคเก่าและยุคใหม่บางครั้งพวกเขาไม่ได้เติบโตในความรุ่งเรืองแต่เติบโตในความเงียบความเจียมตนและการเรียน รู้เจ้าฟ้าทีปังกรอาจไม่ใช่พระโอรสที่เสียงดังที่สุดแต่พระองค์อาจคือเสียงที่จักรวาลต้องการฟังดวงดาวไม่เคยตะกอหรอกแต่เมื่อถึงเวลามันจับเหล่งแสงสว่างโดยไม่ต้องขออนุญาตจากใครและเมื่อแสงนั้นส่องมาถึงแผ่นดินไทยมันอาจไม่ใช่แค่คำทำนายแต่มันคือจุดเริ่มต้นของราชาองค์ใหม่ที่จักรวาลได้กำหนดไว้แล้วความเข้มแข็งของบางคนไม่ได้แสดงออกผ่านถ้อยคำแต่ผ่านความเงียบที่ไม่เคยหายไปถ้ามีคำใดที่สามารถสรุปภาพลักษณ์ของเจ้าฟ้า ทีปังกรรัศมีโชติในสายตาสาธารณชนได้ดีที่สุดคำนั้นคงคือเงียบพระองค์ไม่เคยให้สัมภาษณ์ไม่เคยมีโซเชียลไม่เคยทรงเป็นข่าวในรูปแบบที่วัยรุ่นในยุคปัจจุบันเป็นแต่แม้จะเงียบเพียงใดพระองค์กลับปรากฏอยู่ในที่ที่สำคัญที่สุดอย่างต่อเนื่องการปรากฏกายที่เปลี่ยนความหมายภาพของพระองค์เคียงข้างพระราชบิดาในพระราชพิธีอีกไม่ใช่เพียงแค่การแสดงออกถึงความจงรักภักดีอีกแต่ยังเป็นภาษาที่ราชสำนักใช้ในการสื่อสารกับประชาชนว่าเขาคือคนที่กำลังเติบโต ในท่ามกลางพิธีกรรมและความเงียบภาพที่พระองค์ทรงเดินอย่างสงบมีมารยาทเรียบร้อยในงานพระราชพิธีสำคัญไม่ใช่เพียงภาพของเด็กชายในเครื่องแบบแต่คือภาพของผู้เติบโต๊ะขึ้นมาในระเบียบและแบบแผนของการเป็นพระราชาบททดสอบที่ไม่มีใครเห็นขณะที่วัยรุ่นหลายคนเผชิญบทเรียนในโรงเรียนเจ้าฟ้าทีปังกรเผชิญบทเรียนจาก2โลกโลกภายนอกที่มีสายตาจับจ้องและโลกภายในที่เต็มไปด้วยความคาดหวังอันเงียบงันมีรายงานว่าพระองค์ทรงศึกษาในประเทศ เยอรมนีในโรงเรียนที่เน้นระเบียบวินัยและความเป็นอิสระทางความคิดทรงใช้ชีวิตในต่างแดนอย่างเรียบง่ายโดยมีครูดูแลเป็นการเฉพาะห่างจากแสงไฟของสื่อและห่างไกลจากเสียงของการเมืองแต่นั่นอาจเป็นบททดสอบที่แท้จริงเพราะผู้นำที่แท้มิได้เติบโตจากเสียงปรบมือแต่เติบโตจากความเข้าใจตนเองในยามที่ไร้คนเห็นยิ่งอยู่ในความเงียบจิตใจยิ่งแข็งแกร่งและองค์ชายผู้นี้กำลังพิสูจน์ว่าความเงียบมิได้หมายถึงความอ่อนแอแต่มันคือการเตรียมตัวสำหรับ วันหนึ่งที่ต้องพูดในนามของแผ่นดินผู้อยู่เบื้องหลังที่อาจอยู่เบื้องหน้าราชวงศ์ไทยเคยมีหลายองค์ชายที่ไม่เป็นข่าวแต่ในเวลาสำคัญพวกเขากลับถูกเรียกตัวให้มานำเช่นเดียวกับในประวัติศาสตร์ของรัชกาลที่9ซึ่งเสด็จขึ้นครองราชย์ในเวลาที่น้อยคนคาดถึงแต่นำพาประเทศไทยผ่านวิกฤตนานนับประการเจ้าฟ้าทีปังกรอาจอยู่เบื้องหลังขอบจอของประชาชนวันนี้แต่ในวันข้างหน้าเขาอาจยืนอยู่เบื้องหน้าของประชาชาติทั้งหมดผู้นำที่แท้มิใช่ผู้ที่ตะโกนว่าจงฟังข้า แต่คือผู้ที่เงียบแล้วคนทั้งแผ่นดินตั้งใจฟังเขาเองและหากวันนั้นมาถึงเราจะย้อนมองกลับไปยังวันนี้ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อความเงียบที่ซ่อนพลังไว้มหาศาลไม่มีใครล่วงรู้อนาคตแต่บางคนเกิดมาเพื่ออยู่ในอนาคตนั้นประเทศไทยในศตวรรษที่21กำลังยืนอยู่ในจุดเปลี่ยนยุคที่ประชาชนเรียกร้องความเปลี่ยนแปลงในขณะที่อีกฝ่ายต้องการความมั่นคงโลกหมุนเร็วแต่ราชสำนักยังต้องยืนมั่นในระหว่างแรงโน้มถ่วงของอดีตและความเร่ง ร้อนของอนาคตเราต้องการผู้นำที่ไม่เพียงมีสายเลือดแต่ต้องมีจิตวิญญาณของผู้เชื่อมโลกทั้งสองไว้ด้วยกันเจ้าฟ้าทีปังกรผู้นำแห่งความหวังเงียบหากวันหนึ่งพระองค์ขึ้นครองราชย์เราคงได้เห็นราชาธิปไตยในรูปลักษณ์ใหม่ไม่ใช่เพียงผู้ปกครองตามพิธีการแต่คือพระราชาเงียบที่เติบโตจากการเรียนรู้และสังเกตพระองค์ทรงอาจมิใช่พระราชาที่ประชาชนใฝ่ฝันแต่กลับเป็นพระราชาที่เหมาะสมกับยุคสมัยที่กำลังจะมาถึงในวันที่โลกเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความเกรี้ยวกราดพระราชาแห่งสติอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดโลกไม่ต้องการผู้นำที่พูดทุกวันแต่ต้องการผู้นำที่ฟังอย่างลึกซึ้ง1ครั้งมากกว่าคำทำนายคือการลงมือเขียนประวัติศาสตร์ใหม่คำทำนายอาจเป็นเพียงเงาแต่พระราชาประกอบตอบด้วยเนื้อหนังชีพจรและหัวใจคำพยากรณ์อาจเป็นแนวทางแต่พระราชาคือผู้เดินตามแนวทางนั้นให้เป็นจริงพระองค์ยังเยาไวและอนาคตยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนแต่สัญญาณทั้งหมดที่โหราจารย์เห็นที่ประวัติศาสตร์กล่าวถึง ที่พิธีการสะท้อนออกมาอย่างเงียบงันชี้ไปยังพระองค์อย่างแนบเนียนและต่อเนื่องถ้าชะตากรรมคือกระแสลมเจ้าฟ้าทีบังกรอาจคือเรือที่ถูกต่อไว้นานแล้วเพราะวันออกเดินทางสะพานสู่ยุคใหม่บางคนมองพระองค์เป็นผู้แทนของสถาบันบางคนมองพระองค์เป็นความหวังใหม่และบางคนอาจยังไม่เคยรู้จักพระองค์เลยแต่ไม่ว่าจะเป็นเช่นไรพระองค์กำลังเป็นสะพานระหว่างอดีตอันลึกซึ้งและอนาคตที่ยังไม่มีใครกล้าจินตนาการราชาไม่จำเป็นต้องเปล่งแสงที่สุดแต่อย่าลืมว่า แสงอาทิตย์รุ่งอรุณก็เริ่มจากความเงียบและหากโชคชะตาเป็นผู้เขียนเรื่องราวของไทยองค์ชายถี่ปังกรคือหนึ่งในตัวละครสำคัญที่กำลังรอวันปรากฏบทเต็มในหน้าประวัติศาสตร์ครับ

อนาคตราชวงศ์ไทยกับคำทำนายลับ: เจ้าฟ้าทีปังกรฯ สะเทือนบัลลังก์ Read More

โปรดเกล้าฯ “พล.อ.ประยุทธ์” ผู้แทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตร

วันที่ 10 ตุลาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในวันนี้ (10 ตุลาคม 2568) เป็นการพระราชทานปริญญาบัตรให้กับผู้สำเร็จการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ   ในการนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้กล่าวรายงานผลการดำเนินงานมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ที่ได้น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา เพื่อสร้างคุณลักษณะ 4 ประการให้กับผู้เรียน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้น้อมนำแนวทางการดำเนินงาน สู่การปฏิบัติและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง   โดยในปีงบประมาณ …

โปรดเกล้าฯ “พล.อ.ประยุทธ์” ผู้แทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตร Read More

ด่วน! กองทัพภาคที่ 1 ประกาศแล้วล่าสุด พร้อมเข้าดำเนินการเด็ดขาด

    เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 1 ได้ประกาศยืนยันความพร้อมในภารกิจปกป้องอธิปไตยของไทย ผ่านเพจเฟซบุ๊กทางการ กองทัพภาคที่ 1 โดยระบุว่า ทภ.1 ยืนยันความพร้อมในภารกิจปกป้องอธิปไตยของไทย ยึดผลสำเร็จทางยุทธวิธีและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ กองทัพภาคที่ 1 ขอเรียนชี้แจงภารกิจปกป้องอธิปไตยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว โดยในห้วงที่ผ่านมา กกล.บูรพาและหน่วยทหารในพื้นที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่ ในการเตรียมความพร้อมการปฎิบัติ ในทุกมิติ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น     กองทัพภาคที่ 1 จะเข้าดำเนินการเด็ดขาดกับพื้นที่ที่มีการรุกล้ำอธิปไตยของไทยในห้วงวันเวลาที่ได้เปรียบ โดยคำนึงถึงผลสำเร็จทางยุทธวิธีของหน่วยปฏิบัติและความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนเป็นสำคัญ ตลอดจนลดความสูญเสียหรือผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย …

ด่วน! กองทัพภาคที่ 1 ประกาศแล้วล่าสุด พร้อมเข้าดำเนินการเด็ดขาด Read More

ราชกิจจาฯ ประกาศกองทัพภาค 2 ไทยจัดกำลังพลประจำจุด เตรียมพร้อมโต้เขมร

วันที่ 15 ต.ค.2568 ทางเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แถลงการณ์ สรุปสถานการณ์ โดยบระบุว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2568 (เวลา 14.00 น.) สถานการณ์โดยรวม ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทย จัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์ ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน …

ราชกิจจาฯ ประกาศกองทัพภาค 2 ไทยจัดกำลังพลประจำจุด เตรียมพร้อมโต้เขมร Read More

ด่วนที่สุด! เทศบาลนครหาดใหญ่ ประกาศยกธงแดงทั้งเมือง

ด่วนที่สุด! เทศบาลนครหาดใหญ่ ประกาศยกธงแดงทั้งเมือง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 เพจ เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้โพสต์แถลงการณ์การณ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ระบุว่า แถลงการณ์ฉบับที่ 4 เรื่อง ยกธงแดง ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เนื่องจากมีมวลน้ำจากนอกพื้นที่จำนวนมากได้ไหลเข้าสู่ ทั้งคลองอู่ตะเภา และคลองหวะ ตั้งแต่ต้นน้ำและกลางน้ำ ส่งผลให้คลองหวะ คลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำที่ 1 ได้เอ่อล้น อาจจะเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ โดยให้ประชาชนที่อาศัยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ให้อพยบเคลื่อนย้ายสิ่งของและเตรียมเข้าอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : …

ด่วนที่สุด! เทศบาลนครหาดใหญ่ ประกาศยกธงแดงทั้งเมือง Read More

ด่วนที่สุด! เทศบาลนครหาดใหญ่ ประกาศยกธงแดงทั้งเมือง

ด่วนที่สุด! เทศบาลนครหาดใหญ่ ประกาศยกธงแดงทั้งเมือง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 เพจ เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้โพสต์แถลงการณ์การณ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ระบุว่า แถลงการณ์ฉบับที่ 4 เรื่อง ยกธงแดง ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เนื่องจากมีมวลน้ำจากนอกพื้นที่จำนวนมากได้ไหลเข้าสู่ ทั้งคลองอู่ตะเภา และคลองหวะ ตั้งแต่ต้นน้ำและกลางน้ำ ส่งผลให้คลองหวะ คลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำที่ 1 ได้เอ่อล้น อาจจะเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ โดยให้ประชาชนที่อาศัยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ให้อพยบเคลื่อนย้ายสิ่งของและเตรียมเข้าอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : …

ด่วนที่สุด! เทศบาลนครหาดใหญ่ ประกาศยกธงแดงทั้งเมือง Read More

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 3

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 3 แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 3 แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 3 VDO

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 3 Read More

ด่วนที่สุด! เทศบาลนครหาดใหญ่ ประกาศยกธงแดงทั้งเมือง

ด่วนที่สุด! เทศบาลนครหาดใหญ่ ประกาศยกธงแดงทั้งเมือง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 เพจ เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้โพสต์แถลงการณ์การณ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ระบุว่า แถลงการณ์ฉบับที่ 4 เรื่อง ยกธงแดง ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เนื่องจากมีมวลน้ำจากนอกพื้นที่จำนวนมากได้ไหลเข้าสู่ ทั้งคลองอู่ตะเภา และคลองหวะ ตั้งแต่ต้นน้ำและกลางน้ำ ส่งผลให้คลองหวะ คลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำที่ 1 ได้เอ่อล้น อาจจะเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ โดยให้ประชาชนที่อาศัยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ให้อพยบเคลื่อนย้ายสิ่งของและเตรียมเข้าอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : …

ด่วนที่สุด! เทศบาลนครหาดใหญ่ ประกาศยกธงแดงทั้งเมือง Read More

สะพานกรุงเทพถล่ม เสียชีวิต 76 ราย!

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุสะพานเทียบเรือพังถล่ม จนให้มีผู้คนร่วงลงไปในน้ำ ซึ่งเป็นน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก บนเกาะซาเปโล นอกชายฝั่งรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐฯ จำนวนอย่างน้อยกว่า 20 ราย ในจำนวนนี้ปรากฏว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ราย รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่ชาวชุมชนท้องถิ่นที่ชื่อว่า กุลลาห์-กีชี ซึ่งเป็นชุมชนคนผิวดำสืบเชื้อสายมาจากทาสสมัยก่อนบนเกาะซาเปโล กำลังมีงานเฉลิมฉลองเนื่องในงาน วันวัฒนธรรม ทำให้มีผู้คนอยู่บนสะพานเป็นจำนวนมาก ซึ่งสะพานดังกล่าวเป็นสะพานเทียบเรือข้ามฟาก ห่างจากเมืองซาวันนาห์ ริมฝั่งของรัฐจอร์เจีย ไปทางใต้ราว 97 กิโลเมตร …

สะพานกรุงเทพถล่ม เสียชีวิต 76 ราย! Read More

สะพานกรุงเทพถล่ม เสียชีวิต 76 ราย!!

  เมื่อวันที่ 20 ต.ค.67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุสะพานเทียบเรือพังถล่ม จนให้มีผู้คนร่วงลงไปในน้ำ ซึ่งเป็นน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก บนเกาะซาเปโล นอกชายฝั่งรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐฯ จำนวนอย่างน้อยกว่า 20 ราย ในจำนวนนี้ปรากฏว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ราย รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่ชาวชุมชนท้องถิ่นที่ชื่อว่า กุลลาห์-กีชี ซึ่งเป็นชุมชนคนผิวดำสืบเชื้อสายมาจากทาสสมัยก่อนบนเกาะซาเปโล กำลังมีงานเฉลิมฉลองเนื่องในงาน วันวัฒนธรรม ทำให้มีผู้คนอยู่บนสะพานเป็นจำนวนมาก ซึ่งสะพานดังกล่าวเป็นสะพานเทียบเรือข้ามฟาก ห่างจากเมืองซาวันนาห์ ริมฝั่งของรัฐจอร์เจีย ไปทางใต้ราว 97 …

สะพานกรุงเทพถล่ม เสียชีวิต 76 ราย!! Read More