เครื่องบินโดยสารที่มุ่งหน้าสู่ลอนดอนตกในเมืองอัห์มดาบาดทางตะวันตกของอินเดีย มีผู้โดยสาร 242 คนอยู่บนเครื่อง ยังไม่ยืนยันชะตากรรม
ด้านหลังของเครื่องบินแอร์อินเดียที่ตกในพื้นที่อยู่อาศัยใกล้กับสนามบินอัห์มดาบาด ขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังปลายทางลอนดอน เมื่อวันที่ 25.07.68 (Photo by Handout / CENTRAL INDUSTRIAL SECURITY FORCE (CISF) / AFP)
เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังทำงานในจุดที่เครื่องบินแอร์อินเดียเที่ยวบิน 171 ตกในพื้นที่อยู่อาศัยใกล้กับสนามบิน พร้อมผู้โดยสาร 242 คน ในเมืองอัห์มดาบาด ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน (Photo by Handout / CENTRAL INDUSTRIAL SECURITY FORCE (CISF) / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568 กล่าวว่า เกิดเหตุเครื่องบินโดยสารที่มุ่งหน้าสู่ลอนดอนตกในเมืองอัห์มดาบาด ทางตะวันตกของอินเดีย มีผู้โดยสาร 242 คนอยู่บนเครื่องซึ่งยังไม่ทราบชะตากรรมที่แน่ชัด แต่คาดว่าอาจเสียชีวิตยกลำ
ทางการรายงานว่า เครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ เที่ยวบินที่ 171 ของแอร์อินเดีย ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแกตวิคของลอนดอน ตกในเวลาไม่นานหลังจากเครื่องขึ้นบิน
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียกล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่าเป็นเรื่องที่น่าสลดใจอย่างที่สุด
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีพบเห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังค้นหาซากเครื่องบินที่ไหม้เกรียมในบริเวณที่เกิดเหตุ
ผู้พักอาศัยรายหนึ่งในบริเวณที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่า “สำนักงานของเราตั้งอยู่ใกล้กับอาคารที่เครื่องบินตก เราเห็นคนในอาคารกระโดดลงมาจากชั้นสองและสามเพื่อเอาชีวิตรอด ส่วนเครื่องบินก็ลุกเป็นไฟ”
สำนักงานการบินพลเรือนของอินเดียกล่าวว่ามีผู้โดยสาร 242 คนบนเครื่องบิน รวมทั้งนักบิน 2 คนและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 10 คน
แอร์อินเดียกล่าวว่า ผู้โดยสารเหล่านั้นเป็นชาวอินเดีย 169 คน, ชาวอังกฤษ 53 คน, ชาวโปรตุเกส 7 คน และชาวแคนาดา 1 คน
นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นน่าสลดใจอย่างยิ่ง พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ประสบเหตุทุกคน
กรมการบินพลเรือนกล่าวเพิ่มเติมว่า เครื่องบินได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือและตกทันทีหลังจากขึ้นบิน บริเวณนอกเขตสนามบิน
อัห์มดาบาดซึ่งเป็นเมืองหลักในรัฐคุชราตของอินเดีย มีประชากรราว 8 ล้านคน และสนามบินที่พลุกพล่านของเมืองนี้รายล้อมไปด้วยพื้นที่อยู่อาศัยที่มีผู้คนหนาแน่น
นักข่าวเอเอฟพีในเมืองดังกล่าวระบุว่า เครื่องบินตกในบริเวณระหว่างโรงพยาบาลพลเรือนและย่านโกดาแคมป์
ราม โมฮัน ไนดู กินจาราปู รัฐมนตรีกระทรวงการบินสั่งการให้หน่วยงานการบินและการตอบสนองเหตุฉุกเฉินทั้งหมดดำเนินการอย่างรวดเร็วและประสานงานกัน
“ทีมกู้ภัยได้รับการระดมกำลัง และกำลังดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือทางการแพทย์และการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์จะถูกส่งไปยังที่เกิดเหตุโดยเร็ว” รัฐมนตรีฯกล่าว
สนามบินอัห์มดาบาดปิดให้บริการและระงับเที่ยวบินทั้งหมดจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม
นาตาราจัน จันทรเสการัน ประธานสายการบินแอร์อินเดีย กล่าวว่า ศูนย์ฉุกเฉินได้รับการเปิดใช้งานแล้ว และบริษัทฯได้จัดตั้งทีมสนับสนุนสำหรับครอบครัวผู้ประสบเหตุที่ต้องการข้อมูล
“เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งนี้” เขากล่าว
อินเดียประสบเหตุเครื่องบินตกหลายครั้ง รวมถึงเหตุการณ์เมื่อปี 1996 เมื่อเครื่องบินเจ็ต 2 ลำชนกันกลางอากาศเหนือกรุงนิวเดลี ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 350 ราย
ในปี 2010 เครื่องบินเจ็ตแอร์อินเดียเอ็กซ์เพรสตกและระเบิดเป็นลูกไฟที่สนามบินมังกาลอร์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย ส่งผลให้มีผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิต 158 รายจากทั้งหมด 166 รายบนเครื่อง
หลายทศวรรษก่อนหน้านั้น เครื่องบินโบอิ้ง 747 ของแอร์อินเดียที่บินจากมอนทรีออลไปลอนดอนในเดือนมิถุนายน 1985 ตกในทะเลนอกชายฝั่งไอร์แลนด์ โดยมีผู้โดยสาร 329 คนอยู่บนเครื่อง และไม่มีผู้รอดชีวิต
การเติบโตของเศรษฐกิจทำให้ประเทศอินเดียและประชากร 1,400 ล้านคนกลายเป็นตลาดการบินที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก ทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ โดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่าอินเดียจะกลายเป็นตลาดการบินที่ใหญ่เป็นอันดับสามภายในทศวรรษนี้
เมื่อปีที่แล้ว แอร์อินเดียสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสเพิ่มอีก 100 ลำ หลังจากทำสัญญาซื้อเครื่องบิน 470 ลำในปี 2023 โดยเป็นเครื่องบินแอร์บัส 250 ลำ และเครื่องบินโบอิ้ง 220 ลำ
ปริมาณผู้โดยสารทางอากาศภายในประเทศของอินเดียแตะจุดสำคัญเมื่อปีที่แล้วโดยมีผู้โดยสารเกิน 500,000 คนในวันเดียว ตามข้อมูลของกระทรวงการบินพลเรือนอินเดีย.
