เอาออกด่วน ห้ามบูชา4อย่างในบ้าน สิ่งอัปมงคลที่ไม่ควรอยู่ในบ้าน ห้ามมีในบ้าน อาจเป็นหนี้ทั้งชีวิต!!!!
VDOเอาออกด่วน ห้ามบูชา4อย่างในบ้าน สิ่งอัปมงคลที่ไม่ควรอยู่ในบ้าน ห้ามมีในบ้าน อาจเป็นหนี้ทั้งชีวิต!!!!
VDOเอาออกด่วน ห้ามบูชา4อย่างในบ้าน สิ่งอัปมงคลที่ไม่ควรอยู่ในบ้าน ห้ามมีในบ้าน อาจเป็นหนี้ทั้งชีวิต!!!!
รีบด่วน เอาไปทิ้งซะ 6 สิ่งของ พวกนี้ โบราณว่า ห้ามมีในห้องนอน มีแต่เจ็บ มีแต่จน เป็นหนี้ทั้งชีวิต VDO รีบด่วน เอาไปทิ้งซะ 6 สิ่งของ พวกนี้ โบราณว่า ห้ามมีในห้องนอน มีแต่เจ็บ มีแต่จน เป็นหนี้ทั้งชีวิต
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด กรณีเกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา และพื้นที่อื่น ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันและระมัดระวังเหตุลุกลามมากยิ่งขึ้น โดยเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้ 1. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งการให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ดำเนินการตามภารกิจการดูแลความมั่นคงภายใน ให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลความปลอดภัยของประชาชน โดยประเมินสถานการณ์ จำนวนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ชี้แจงแผนอพยพประชาชน กำหนดจุดรวมพลและจุดพักพิงในพื้นที่ปลอดภัย ตลอดจนการดูแลประชาชนในจุดพักพิง ให้ทุกขั้นตอนปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับปรุงแผนเผชิญเหตุ กำหนดขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ เตรียมกำลังพลให้มีความพร้อมปฏิบัติการดูแลความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนสนับสนุนหน่วยทหารในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ 2. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้บัญชาการอาสารักษาดินแดนจังหวัด สั่งการเจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เตรียมความพร้อมกำลังพลเพื่อปฏิบัติงานในยามฉุกเฉิน ตรวจสอบพื้นที่ล่อแหลม สนับสนุนการเฝ้าตรวจและจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน หากเกิดภาวะไม่ปกติให้ปฏิบัติตามแนวทางในแผนรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่เขตหลัง ประกอบแผนสั่งใช้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ปฏิบัติภารกิจประจำปี พ.ศ.2568 … Read more
เพจเฟซบุ๊ก ทีมโฆษกกองทัพบก โพสต์แถลงการณ์โดยระบุว่า จากกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์วันนี้ พบมีบางประเด็นที่พาดพิงถึงทหารฝ่ายไทย พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาอ้างถึงเหตุการณ์ปะทะที่ช่องบกว่า ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนนั้น พลตรี วินธัยฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมา กองทัพบก โดย ผบ.ทบ. ได้เน้นย้ำหน่วยและกำลังพลให้เคร่งครัดในเรื่องของ กฎการปะทะ ยืนยันว่าการปะทะในครั้งนั้นเป็นไปในลักษณะของการป้องกันตัวระดับบุคคล เนื่องจากขณะนั้น หน่วยได้รับข่าวสารว่ามีทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธได้รุกล้ำเข้ามาวางกำลังในพื้นที่ของประเทศไทย ฝ่ายไทยจัดกำลังขนาดเล็กเข้าไปเพื่อลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ แต่ฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธตอบโต้ จึงเกิดการปะทะกัน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว ยืนยันว่า กรณีเกิดเหตุข้อพิพาทในพื้นที่ ฝ่ายไทยได้พยายามดำเนินการผ่านกลไกการเจรจาระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่ ตามที่ทั้งสองประเทศเคยตกลงกันไว้ แต่กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่ไม่มีท่าทีให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในระยะหลัง นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบกยังเผยว่า ปัจจุบัน กองทัพบกมีความพร้อมต่อปฏิบัติการทางทหารในระดับสูง เพื่อรองรับกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางทหารตอบโต้ปัญหาการรุกล้ำอธิปไตย ที่ผ่านมา กองทัพบก และกองกำลังป้องกันชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ได้ติดตามและรวบรวมข่าวสารของทางฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่หน่วยระดับปฏิบัติ จนถึงหน่วยงานในระดับบริหาร พบว่ามีลักษณะท่าทีในการร่วมกันแก้ปัญหาที่ขาดความชัดเจน อีกทั้งปรากฏสิ่งบอกเหตุว่าฝ่ายกัมพูชายังคงดำเนินการเตรียมความพร้อมทางทหารอย่างเข้มข้น ควบคู่กับมาตรการด้านการต่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นความน่ากังวลในแง่มุมทางทหาร ทำให้ตลอดห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบกจึงมีคำสั่งให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมให้อยู่ในระดับที่สูงเพียงพอ ในการตอบสนองต่อภารกิจในขั้นของการใช้กำลังทางทหาร ตามแผนป้องกันประเทศ เพื่อตอบโต้กรณีการรุกล้ำอธิปไตยในขอบเขตพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อใช้ความพยายามแก้ไขปัญหาตามแนวทางแห่งสันติที่ทุกฝ่ายปรารถนาแล้ว แต่ไม่บรรลุผล … Read more
กรณีเกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา และพื้นที่อื่น ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันและระมัดระวังเหตุลุกลามมากยิ่งขึ้น โดยเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น และแน่นอนว่าทางทหารของไทยนั้นก็เตรียมตัวอยู่ตลอดเวลา สำหรับสถานการณ์ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตั้งแต่ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นจนถึงตอนนี้หลายคนก็ออกมาส่งกำลังใจให้ทหารกันเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพระเอกรุ่นใหญ่อย่าง “หนุ่ม – ศรราม เทพพิทักษ์” ที่ล่าสุดได้ออกมาโพสต์ให้กำลังใจทหาร โดย ศรราม ได้โพสต์ภาพของตัวเองสมัยที่ยังเป็นทหาร พร้อมข้อความส่งกำลังใจ โดยระบุว่า “ขอเป็นกำลังใจให้ผู้บังคับบัญชาและกำลังพลทุกนายของประเทศไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนายครับ ด้วยความเคารพครับ …สิบตรีศรราม เทพพิทักษ์ / พัน.ร.มทบ 11 / 1/43 ##ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#เป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คิด#ซามูไรพ่อลูกอ่อน#ติดดินแต่บินได้#สองกายหัวใจเดียว#stveeji @sornramfanclub” โพสต์นี้ของ หนุ่ม นั้นก็มีแฟนๆเข้ามาส่งกำลังใจให้กับทหารกันเป็นจำนวนมากเลยค่ะ อย่างไรก็ขอส่งกำลังใจให้กับทหารไทยทุกคนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ด้วยนะคะ ขอบคุณข้อมูล : sornram_theappitak
เรื่องนี้มีที่มาจากเว็บไซต์ต่างประเทศ CTWANT หลังจากพนักงานออฟฟิศหญิงรายหนึ่ง ชื่อสกุลหยาง ที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เธอทำงานมาได้ประมาณ 1 ปี จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เธอมีแพลนที่จะแต่งงาน เธอจึงขออนุญาตใช้ลาพักร้อน 4 วัน กับทางหัวหน้างาน ซึ่งเธอได้วางแผนจัดการแจ้งล่วงหน้าก่อนถึง 2 เดือน ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา แต่ทว่า คำขอลางานของเธอไม่ได้รับการอนุมัติเสียที เธอรอแล้วรออีกจนวันงานแต่งงานใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กระทั่งก่อนวันแต่งงานเพียง 1 วัน เธอได้รับการตอบกลับจากทางบริษัทอย่างที่ไม่คาดคิด เมื่อทางหัวหน้างานของเธอปฏิเสธการลาของเธอ ทั้ง ๆ ที่งานแต่งงานของเธอกำลังจะเกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้นแล้ว เธอจึงตัดสินใจพักเรื่องงานเอาไว้ก่อน แล้วมุ่งหน้าไปเข้าพิธีสำคัญในชีวิตของเธอ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ เธอได้เดินทางกลับมาทำงานที่บริษัท แต่ปรากฏว่าทางบริษัทได้ลงรายงานว่า เธอขาดงานต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วัน และใช้เหตุผลข้อนี้ในการไล่เธอออกจากงาน เธอรู้สึกตกใจและไม่พอใจกับการปฏิบัติเช่นนี้ของทางบริษัทเป็นอย่างมาก ในที่สุดเธอจึงยื่นฟ้องต่อศาล ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา ในระหว่างการพิจารณาคดี ทางบริษัทคู่กรณีของเธอได้อ้างว่า เนื่องจากพนักงานรายนี้ไม่ได้ยื่นคำร้องขอลาตามขั้นตอน และไม่ได้ยื่นสำเนาใบทะเบียนสมรสอย่างถูกต้อง ภาพถ่ายงานแต่งงานที่เธอให้มา ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานยืนยันในการแต่งงานได้ ดังนั้นทางบริษัทจึงปฏิเสธการลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ศาลได้พิจาณามีความเห็นว่า … Read more
สุดอาลัย พิธีรับ “อส.ทพ.ไมตรี บุดดา” วีรบุรุษชายแดนใต้ สละชีพเพื่อชาติ “พิธีรับศพทหารกล้า อส.ทพ.ไมตรี บุดดา เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้” พันเอก ชัยภัทร เงินดีเจริญ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22 ร่วมพิธีรับศพกำลังพลเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ อาสาสมัครทหารพราน ไมตรี บุดดา สังกัด กรมทหารพรานที่ 46 โดยหน่วยได้จัดกำลังพลร่วมพิธี อนุศาสนาจารย์ประกอบพิธี พร้อมด้วยกองทหารเกียรติยศ และสนับสนุนยานพาหนะนำขบวนเคลื่อนย้ายศพผู้วายชนม์ ไปยังสถานที่จัดงาน ณ วัดศรีมงคล ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ โดยมี ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธี อาสาสมัครทหารพรานไมตรี บุดดา ปฏิบัติหน้าที่เป็นพลยิงเครื่องยิงลูกระเบิด ในชุดปฏิบัติการร้อย.ทพ.4614 สังกัดกรมทหารพรานที่ 46 โดยมีการจัดพิธีเคลื่อนย้ายศพจากท่าอากาศยานนราธิวาสมายังสนามบินกองบิน 21 จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยเครื่องบินลำเลียงแบบ C-295 เพื่อนำไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ณ … Read more
มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หรือ เต้พระราม7 เรียกได้ว่างานนี้ เตรียมลุย เพื่อชาติ หลังสถานการณ์ไทยกัมพูชา กำลังเป็นที่น่าเป็นห่วง โดยได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ระบุว่า เมื่อ ทหาร อยู่ในพื้นที่รบ ควรฟัง แม่ทัพ เท่านั้น ส่วน นักการเมือง ไม่จำเป็นต้องฟัง เพราะเขาคิดเขาหลายมิติจนตัดสินใจไม่ได้ ไม่ทัน ถ้าเรารบต้องชนะ อย่างอื่นค่อยว่ากัน ทีหลัง เรียน fc พี่เต้ พระราม7 ที่เป็นกำลังพลสำรอง(รด ปี 3,5 ทหารปลดประจำการ) จำนวน 50-“มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หรือ เต้พระราม7 เรียกได้ว่างานนี้ เตรียมลุย เพื่อชาติ หลังสถานการณ์ไทยกัมพูชา กำลังเป็นที่น่าเป็นห่วง โดยได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ระบุว่า หากชาติมีภัย กำลังรบไม่พอ ผมก็พร้อม รอกองทัพเรียกกำลังพลสำรอง ได้ตลอด ช่วงนี้จึงต้องฟิตมาก … Read more
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “ฮุก31จุดจอหอ” ซึ่งเป็นของชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา (ฮุก 31) ได้โพสต์ภาพการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยขณะนำร่างผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัด พร้อมข้อความที่สะท้อนถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เริ่มกลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง จากโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยข้อมูลว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นเดือนมิถุนายน 2568 จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 5 มิถุนายน) ในพื้นที่รับผิดชอบ มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 8 ราย ที่น่าสลดใจคือ หนึ่งในผู้เสียชีวิตมีอายุเพียง 4-5 ขวบเท่านั้น เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าการแพร่ระบาดยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฮุก 31 ยังระบุเพิ่มเติมว่า ภารกิจในการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เริ่มมีความถี่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในแต่ละพื้นที่ที่รับผิดชอบ จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด โดยขอให้หมั่นล้างมือบ่อยๆ รับประทานอาหารโดยใช้ช้อนกลาง และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องเข้าไปในพื้นที่ชุมชนหรือสถานที่ที่มีผู้คนแออัด เพื่อช่วยกันป้องกันและลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “ฮุก31จุดจอหอ” ซึ่งเป็นของชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา (ฮุก 31) ได้โพสต์ภาพการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยขณะนำร่างผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัด พร้อมข้อความที่สะท้อนถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เริ่มกลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั จากโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยข้อมูลว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นเดือนมิถุนายน 2568 จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 5 มิถุนายน) ในพื้นที่รับผิดชอบ มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 8 ราย ที่น่าสลดใจคือ หนึ่งในผู้เสียชีวิตมีอายุเพียง 4-5 ขวบเท่านั้น เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าการแพร่ระบาดยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฮุก 31 ยังระบุเพิ่มเติมว่า ภารกิจในการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เริ่มมีความถี่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในแต่ละพื้นที่ที่รับผิดชอบ จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด โดยขอให้หมั่นล้างมือบ่อยๆ รับประทานอาหารโดยใช้ช้อนกลาง และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องเข้าไปในพื้นที่ชุมชนหรือสถานที่ที่มีผู้คนแออัด เพื่อช่วยกันป้องกันและลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19